EA เร่งธุรกิจใหม่ ‘นิวเอสเคิร์ฟ’ ลุยเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ - ชี้แคชโฟลว์แข็งแกร่งระยะยาว

EA เร่งธุรกิจใหม่ ‘นิวเอสเคิร์ฟ’ ลุยเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ - ชี้แคชโฟลว์แข็งแกร่งระยะยาว

“สมโภชน์ อาหุนัย” ยืนยัน EA พร้อมเร่งเครื่องลงทุนธุรกิจนิวเอสเคิร์ฟ จากธุรกิจแบตเตอรี่ และยานยนต์ไฟฟ้า ยืนยันฐานะการเงินแข็งแกร่งระยะยาว ไม่หวั่น Adder หมดชี้มีกระแสเงินสดเข้าสม่ำเสมอ พร้อมคืนหนี้หุ้นกู้ครบตรงเวลา

ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้เข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก โดยเริ่มจากการเป็นผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน และเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายแรกของอาเซียน รวมถึงการสร้างอีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)

EA เร่งธุรกิจใหม่ ‘นิวเอสเคิร์ฟ’ ลุยเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ - ชี้แคชโฟลว์แข็งแกร่งระยะยาว

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานะทางการเงินของ EA มีความแข็งแกร่ง โดยประเด็นกระแสเงินสดลดลงจากค่า Adder ของโรงไฟฟ้าที่จะทยอยหมดลงนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่

ทั้งนี้ การที่ Adder น้อยลงไม่ทำให้รายได้ส่วนนี้หายไปหรือกลายเป็นศูนย์ รายได้จากการขายพลังงานไฟฟ้าจำแนกเป็น 2 ส่วน 1.มาจากไฟฟ้าฐาน 2.Adder ซึ่งบริษัทยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฐานตามปกติ จึงยังคงมีกระแสเงินสดเป็นรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และกรณีที่ลือว่าโครงการต่างๆ กำลังทยอยหมด Adder ในอีกไม่นานนั้น

สำหรับข้อเท็จจริงเป็นการทยอยหมดในระยะยาวดังนี้ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์เริ่มทยอยหมดได้แก่ จังหวัดลพบุรี 8 เมกะวัตต์ ปี 2566 จังหวัดนครสวรรค์ 90 เมกะวัตต์ ปี 2566 จังหวัดลำปาง 90 เมกะวัตต์ หมดปี 2568 จังหวัดพิษณุโลก 90 เมกะวัตต์ หมดปี 2569 ส่วนโครงการพลังงานลมหาดกังหัน 126 เมกะวัตต์ หมดปี 2570 และหนุมาน 260 เมกะวัตต์ หมดปี 2572

โดยทั้ง 2 โครงการคือ จังหวัดลพบุรี และ จังหวัดนครสวรรค์ ที่ไม่มี Adder ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันก็ยังขายไฟฟ้าสร้างรายได้ให้บริษัทอยู่ ซึ่งหลังจากปี 2568 บริษัทคาดมีรายได้จากการขายไฟฟ้าในโครงการต่างๆ 9,000 ล้านบาทต่อปี และจะเริ่มทยอยลดไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2572 รายได้จะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้บริษัทมีการทำสัญญาต่ออายุสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทุกๆ 5 ปี

นอกจากนี้ แม้จะไม่มีรายได้ส่วนเพิ่มจาก Adder แต่การขายไฟฟ้าฐานตามอัตรารับซื้อก็ยังอยู่ในระดับสูงมากพอ และยาวนานต่อเนื่องถือเป็นแหล่งสร้างเงินสดระยะยาวเพียงพอสนับสนุนการขยายธุรกิจเชิงรุก รวมถึงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับชำระคืนหนี้หุ้นกู้ด้วย

บริษัทมั่นใจสามารถจ่ายดอกเบี้ย และชำระหนี้หุ้นกู้ได้ตรงตามกำหนด อย่างกระทั่งในกรณีเลวร้ายต่อให้มีการใช้เงินลงทุนใน บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX รวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD แล้วมีเหตุจำเป็นต้องหยุดกิจการ บริษัทก็ยังสามารถจ่ายคืนเงินกู้ได้ครบถ้วน

เร่งลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่

ขณะเดียวกันในส่วนของโรงงานแบตเตอรี่ของ EA ซึ่งหลายฝ่ายกังวลเรื่องความสามารถการแข่งขัน หลังจากราคาแบตเตอรี่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาบริษัท และพันธมิตรตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี และได้ทำการศึกษาพร้อมกับปรับปรุงเทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการผลิต จนขณะนี้ทำให้ต้นทุนปรับลดลงอยู่ใกล้เคียงระดับที่สามารถแข่งขันได้

“ประเด็นความเป็นห่วงการชำระหนี้จำนวน 1,500 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในเดือนส.ค. 67 นี้ เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาปัจจุบันบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งทริสเรตติ้งยังได้รับการประเมินสถานะอยู่ที่ BBB+ รวมถึงได้มีการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับชำระคืนหนี้หุ้นกู้ด้วย โดยบริษัทมั่นใจว่าสามารถจ่ายดอกเบี้ย และชำระหนี้หุ้นกู้ได้ตรงตามกำหนดอย่างแน่นอน ขณะที่หุ้นเพิ่มทุนที่ขาย PP ให้กับนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ได้รับการยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะใส่เงินเพิ่มทุนเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกับ EA”

ลุยธุรกิจตามเมกะเทรนด์โลก

พร้อมกันนี้ บริษัทได้เตรียมแผนรองรับโดยการขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านแบตเตอรี่ และยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการหาโครงการลงทุนใหม่เพื่อสร้างรายได้อื่นๆ เพิ่มเติม จากการขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศด้วย 

ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะในจังหวัดภูเก็ตขนาด 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2569 ขณะเดียวกันยังได้มีการเซ็น PPP ตั้งศูนย์จัดการขยะบนพื้นที่เกาะล้าน โดยมีสัญญาระยะ 5 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานเชิงรุกที่มีต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทมียังมี Product Champions อาทิ การจับมือพันธมิตรแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF), ความร่วมมือกับ CRRC Dalian ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ผู้นำธุรกิจรถไฟความเร็วสูงของจีน ร่วมผลิตหัวรถจักรไฟฟ้า,เป็นผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (Commercial EV) และสถานีชาร์จของบริษัทได้รับการจดสิทธิบัตร Ultra-fast charge ในระดับโลก มีหัวชาร์จมากกว่า 2,000 จุดครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ

รุกธุรกิจน้ำมันอากาศยานชีวภาพ

นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมมือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ในการตั้งโรงงานผลิต SAF หรือเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนจากน้ำมันพืชปรุงอาหารที่ใช้แล้ว มีกำลังการผลิต 100,000 ลิตรต่อวัน คาดว่าจะเสร็จ และสามารถผลิตได้ในไตรมาส 3 ปี 2567

และด้านรถโดยสารไฟฟ้าของบริษัท ไทยสมายบัส จำนวน 2,000 คัน ได้ให้บริการมีผู้โดยสารใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉลี่ยจำนวนผู้โดยสารขณะนี้ประมาณ 350,000 คน/วัน เชื่อว่าภายใน 1 ปีจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้

ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ NEX ถือเป็นผู้นำตลาดของเมืองไทยที่มีคู่ค้า พันธมิตร ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ให้การยอมรับ และพร้อมที่จะมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และใช้บริการของ NEX และขอยืนยันว่า EA ได้เตรียมเงินสดไว้เพียงพอสำหรับการเพิ่มทุนของ NEX ในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้ NEX มีฐานทุนที่แข็งแรงสำหรับการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคตต่อไปได้

ปักธงลงทุนพลังงานหมุนเวียนลาว

ส่วนธุรกิจต่างประเทศได้ขยายธุรกิจไปยัง สปป.ลาว โดยตั้งบริษัทซุปเปอร์โฮลดิ้งร่วมกับรัฐบาลลาว ซึ่งจะไปเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนของลาว ทำให้มีรายได้ในส่วนนี้เข้ามามากขึ้น โดยจะมีการลงทุนประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ และในเฟสแรกจะเริ่มลงทุนที่ 100 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า ซึ่งสามารถซื้อขายไฟฟ้าผ่าน ได้ 3,000 เมกะวัตต์ จากเขื่อนทั้งหมดที่มีกำลังการผลิต 7,000 เมกะวัตต์ ผ่านบริษัทซุปเปอร์โฮลดิ้ง

ขณะเดียวได้เข้าไปลงทุนในประเทศจีน โดยจับมือกับ CRRC Dalian ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ผู้นำธุรกิจรถไฟความเร็วสูงของจีน ร่วมผลิตหัวรถจักรไฟฟ้า เป็นผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ และสถานีชาร์จของบริษัทได้รับการจดสิทธิบัตร Altra-fast Charge ในระดับโลก มีหัวชาร์จมากกว่า 2,000 จุด ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ

ยืนยันฐานะการเงินแข็งแกร่ง

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการวางแผนการลงทุนในแต่ละปีเพื่อสร้างรายได้ที่แข็งแกร่ง และมีเงินสดเพียงพอในการใช้จ่ายตามแผนการใช้จ่ายของบริษัท โดย D/E ของบริษัทอยู่ที่ 1.6 เท่า 

นอกจากนี้ EA ยังมีเครดิตเรตติ้ง BBB+ จากทริสเรตติ้ง ยังเป็นอินเวสเมนท์เกรด ซึ่งหมายความว่า EA ยังอยู่ฐานะทางการเงินที่ดี และแข็งแกร่ง ขณะที่สถาบันการเงินที่สนับสนุนบริษัทเหมือนเดิม

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ในมุมมองของฝ่ายวิจัย ธุรกิจโรงไฟฟ้ายังถือเป็นธุรกิจหลักในการสร้างกำไรให้แก่ EA และมีปัจจัยกดดันที่สำคัญจากรายได้ Adder ที่เริ่มทยอยหมดอายุลง ซึ่งคาดจะส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าวมีกำไรลดลงราว 1.1 พันล้านบาทในปี 2567 และคาดจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีกราว 800-900 ล้านบาทต่อปี ในปี 2568- 2569

ทั้งนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันกำไรปกติของ EA ให้มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากธุรกิจใหม่ยังไม่สามารถเข้ามาชดเชยการลดลงของกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าได้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์