MGI เผยรายได้ทั้งปีโตเพิ่มเท่าตัว 1.3 พันล. เตรียมเปิด'คลินิกความงาม-Anti-Aging' สิ้นปีนี้

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เปิดเผยว่า ผลงานไตรมาส 2/2567 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้กว่า 100% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจการจัดประกวดมิสแกรนด์ขยายตัวดี รวมถึงธุรกิจทางด้านคอมเมิร์ซ โดยครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีรายได้จะเติบโตกว่า 100% ประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้าที่ 617 ล้านบาท

โดยรายได้ที่สร้างยอดขายมากที่สุดปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์ม TikTok ที่ทำยอดขายต่อเดือน 25 ล้านบาท และหากรวมทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งแค่ช่องทางเดียวโดยยังไม่ได้รวมช่องทางจัดจำหน่ายอื่น ๆ อย่าง Facebook หรือ ขายตรง ซึ่งสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Commerce อยู่ที่ 48% โดยตั้งเป้าไว้ว่าในปีนี้จะทำให้ได้มากกกว่า 50% ปัจจุบันมีสินค้าอยู่ 40 รายการ และมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม ส่วนรายได้ธุรกิจนางงามอยู่ที่  15% และรายได้ธุรกิจการจัดการศิลปินที่ 15% และรายได้อื่น ๆ อีก 20%

นอกจากนี้ ในส่วนกรณีการเข้าถือหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จำนวน 30 ล้านหุ้น หรือ 1.7% นั้น บริษัทจะไม่มีการบันทึกเงินลงทุนใน SABUY ในไตรมาส 2/67 

สำหรับ แผนงานครึ่งปีหลังธุรกิจที่จะมาใหม่คือ คลินิกความงาม และ Anti-Aging นอกจากนี้ยังมีซีรีส์ที่จะเริ่มออนแอร์ในไตรมาส 3  - 4 ด้วยกัน 2 เรื่อง ซึ่งเรื่องแรกที่กำลังผลิตคือ หยดฝนกลิ่นสนิท นำโดยอิงฟ้า และชาลอต  ส่วนอีกเรื่องกำลังอยู่ในระหว่างกันตั้งชื่อเรื่อง นำโดย อุ้ม และ มีนา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคู่ที่มีแฟนคลับเยอะมาก ณ ขณะนี้ ซึ่งเป็นซีรีส์ Girls Love หรือยูริ ที่เกี่ยวกับหญิงรักหญิงทั้ง 2 เรื่อง

รวมถึงจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ของชาลอต ในเดือน ส.ค.นี้ และในเดือน พ.ย. 2567 จะเป็นคอนเสิร์ตของ อิงฟ้า ซึ่งจะเป็นกิจกรรมใหญ่ที่เห็นถึงความชัดเจน และในเดือน ก.ค.นี้ กลุ่มศิลปิน T-POP อย่าง O'Daisy จะเริ่มออกงานครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่  

ขณะที่ พื้นที่ออฟฟิศใหม่จะเริ่มเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือน ส.ค.- ก.ย. 2567 นี้ อยู่แถวทาวน์อินทาวน์ พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ มูลค่า 135 ล้านบาท และตกแต่งอีกประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งที่ดินทำออฟฟิศเป็นการซื้อก่อนเข้า IPO 

นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม ที่ชื่อ วันแกรนด์ โดยเริ่มแรกได้ใช้ในการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตไปทั่วโลก โดยผ่านแพลตฟอร์มนี้ในทุกอีเว้นท์ แต่หลังจากนี้จะมีการพัฒนาไปสู่ระบบกระเป๋าตัง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ปี เนื่องจากว่า โครงสร้างลักษณะนี้ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย และต้องใช้ระบบกระเป๋าตังเข้าช่วย ซึ่งสิ่งนี้ต้องยอมรับว่า ยังคงต้องพึ่งพิง SABUY ดังนั้นการลงทุนกับ SABUY เป็นการลงทุนเพื่อต่อยอด เนื่องจาก SABUY มีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายจากกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันถ้าจะทำเองค่อนข้างทำได้ยาก และต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท 

"วันแกรนด์ ถ้าทำได้จะเป็นเหมือนได้รับเงินล่วงหน้าในทุกแพลตฟอร์ม และช่วยลดค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องพึ่งพิงแพลตฟอร์มอื่น หรือเคาร์เตอร์เซอร์วิส เช่น การจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตของชาลอตที่มีการซื้อตั๋วคอนเสิร์ต และสามารถเลือกที่นั่งได้เลยทันทีส่งผลให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น และจะสามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบไม่เกิน 2 ปีนี้"

ขณะที่ การร่วมทุนกับ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ออกผลิตภัณฑ์ แบรนด์ Beautilox ซึ่งมีจำหน่ายที่ EVEANDBOY  และ Watsons ล่าสุดในเดือนส.ค.2567 จะมีการนำสินค้าออกวางจำหน่ายที่ 7-11 จำนวน 3,000 สาขา อยู่ภายใต้บริษัท บริษัท เคเอ็มจีไอ จำกัด โดยการถือหุ้นคนละ 50%