หุ้น NEX-BYD ดิ่งกว่า 27% หลัง EA ถูกกล่าวโทษ 'โบรก'ชี้ไม่เหมือน STARK แนะจับตารีไฟแนนซ์ระยะสั้น
หุ้น EA ขึ้นเครื่องหมาย H เช้านี้ หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้หยุดการซื้อขายชั่วคราว และให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม หลังถูก ก.ล.ต. ขณะที่ หุ้น NEX ร่วง 25.97% และ หุ้น BYD ร่วง 26.82% 'โบรก' ชี้ไม่เหมือน STARK แนะจับตารีไฟแนนซ์ระยะสั้น
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 15 ก.ค.2567 เวลา 10.00 น.หุ้น EA ขึ้นเครื่องหมาย H หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้หยุดการซื้อขายชั่วคราว และให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่ หุ้น NEX ร่วง 25.97% ราคา -0.40 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 1.14 บาท และ หุ้น BYD ร่วง 26.82% ราคา -0.48% หรือระดับราคาอยู่ที่ 1.31 บาท
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า กรณีหุ้น EA คงจะสร้างความผันผวนให้กับตลาด ฯ เนื่องจากเป็นจังหวะที่โดนกล่าวโทษกับ ก.ล.ต.เป็นจังหวะเดียวที่จะต้องรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ที่จะถึงกำหนด เพราะฉะนั้นจะทำให้ภาพของการรีไฟแนนซ์มีความลำบากมากขึ้น หรือการเงินที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ในความกังวลกรณีของ EA กับ STARK มีความแตกต่างกัน โดยกรณีของ EA เป็นการกล่าวโทษผู้บริหารรายบุคคล เนื่องจากโดนกล่าวหาในการหาผลประโยชน์จากบริษัทฯ คือ เป็นการซื้อของและมีเงินทอน ซึ่งต่างจาก STARK ที่มีการสร้างรายได้อันเป็นเท็จ คือ รายได้ กำไรไม่มีจริง แต่เป็นการเสกขึ้นมา แต่ EA จนถึง ณ ปัจจุบัน ไม่มีข้อกล่าวหาในเรื่องของการตกแต่งบัญชี แต่เป็นปัญหาเรื่องของผู้บริหารที่ทำไม่เหมาะสมในเงินทอนที่ยังคงต้องพิสูจน์กันต่อไป ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หากมองว่า เป็นคดีความต่อผู้บริหาร แต่ระดับความร้ายแรงค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก จึงอยากให้นักลงทุนเข้าใจก่อน และสุดสำคัญของ EA การตึงตัวทางการเงินในระยะสั้นที่ต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งหากผ่านไปได้ และพิสูจน์กระแสเงินสดจากผลการดำเนินงานต่าง ๆ ได้ ก็จะทำให้ธุรกิจยังคงยืนอยู่ต่อไปได้ และไม่ได้เหมือนกับกรณีของ STARK ที่มีการฉ้อโกง และสร้างมูลค่าให้กับบริษัทกำไรเทียมขึ้นมา
"นักลงทุนที่มีหุ้น EA แม้ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ยังคงต้องลุ้นพัฒนาการของบริษัทว่า จะสามารถแก้ปัญหาทางการตึงตัวทางการเงิน และผ่านการรีไฟแนนซ์ตรงนี้ไปให้ได้"
ในส่วนของ "สมใจนึก เองตระกูล" ที่เข้ามารักษาการประธานเจ้าหน้าบริหารแทนนั้น มองว่า ก่อนหน้านี้ท่านก็อยู่ในบอร์ดคณะกรรมการบริษัทอยู่แล้ว แต่บทบาทที่เปลี่ยนครั้งนี้มากขึ้นคือ มาอยู่ในบอร์ดคณะการบริหารได้เลย และการที่ท่านยอมมานั่งเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร น่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในตัวบริษัทลูก เพราะบริษัทลูกก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในการเติบโต อย่าง NEX พอนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น โอกาสที่จะระดมทุน หรือเพิ่มทุนให้ได้ตามแผนอาจจะประสบความสำเร็จได้่ยากมากขึ้น แต่ถ้าในสถานการณ์ปกติในบริษัทแม่ อย่าง EA ไม่มีปัญหา ก็จะสามารถเพิ่มทุนใน NEX ได้จำนวนหนึ่ง แต่พอ EA มีปัญหาในการรีไฟแนนซ์หนี้ของตัวเอง การจะไปช่วยบริษัทอาจจะทำได้ยากมากขึ้น จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้บริษัทลูกอย่าง NEX มีการปรับตัวลงแรงในช่วงเช้าวันนี้ (15 ก.ค.2567)
ส่วน BYD นั้น EA มีการถือหุ้นผ่าน บริษัท อีเอ โมบิลิตี โฮลดิง จำกัด จำนวน 19.62% ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนไม่มั่นใจคือ การที่ EA มีการปล่อยกู้มาร์จิ้นแค่ไหน และอาจจะมีผลกระทบตัวเงินทุนของบริษัทหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ของบริษัทยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องมาจากปัญหาของการรีไฟแนนซ์ ซึ่งทำให้สามารถคาดเดาได้ยากว่า มูลค่าของบริษัทในกรณีต่าง ๆ จะมีความแตกต่างกันมากแค่ไหน โดยนักลงทุนที่มีหุ้น EA ควรติดตามข้อมูลจากทางบริษัทอย่างใกล้ชิด และให้ติดตามการรีไฟแนนซ์หากผ่านไปได้ ก็จะทำให้สถานการณ์ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นไปได้