SCG กำไรไตรมาส 2 ลด 54% รับผลกระทบค่าใช้จ่ายไฟไหม้ 'มาบตาพุด แทงค์เทอร์มินัล'
"ปูนซิเมนต์ไทย" กำไรสุทธิ Q2/67 ที่ 3,707 ล้านบาท ลด 54% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วน 6 เดือนรวม กำไรสุทธิ 6,132 ล้านบาท ลด 75% เหตุปีก่อนมีปรับมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน 14,822 ล้านบาท มีปันผลระหว่างกาล 2.50 บาท/หุ้น ขณะที่ทั้งปี 67 วงเงินลงทุน 4 หมื่นล้านบาทเน้นกรีน
นายพิชิต ลีละพันธ์เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานบัญชีกลาง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2567 กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 3,707.92 ล้านบาท ลดลง 54.13% จากไตรมาสที่ 2/2566 ที่เคยทำได้ 8,082.24 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 3%
อย่างไรก็ตาม EBITDA ลดลง 18% ส่วนใหญ่มาจากส่วนต่างราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลงและค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ โดยมีกำไรสำหรับงวดลดลดลง 54% และกำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ (Profit excluding extra items) ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจากส่วนต่างราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลงประกอบกับค่าใช้จ่ายของโรงงานปิโตรเคมี LSP
สำหรับงวดรวม 6 เดือนปี 2567 นี้ SCC มีกำไรสุทธิ 6,132.78 ล้านบาท ลดลง 75.07% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่เคยทำได้ 24,607.97 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 252,461 ล้านบาท คงที่จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากรายได้จากการขายที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง เนื่องจากสถานการณ์ตลาดในไทยที่อ่อนตัวลงตามฤดูกาล
นอกจากนี้ ส่วนต่างราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์และเงินปันผลที่ลดลงของเอสซีจี เคมิคอลส์ ส่งผลให้ EBITDA ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 28,889 ล้านบาท
โดยมีกำไรสำหรับงวดลดลง 75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 6,133 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 มีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนมูลค่า 14,822 ล้านบาท และกำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ (Proft excluding extra items) ลดลง 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากส่วนต่างราคาที่ลดลงประกอบกับค่าใช้จ่ายของโรงงานปิโตรเคมี LSP
รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีมูลค่า 17,554 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนเป็นของเอสซีจี เคมิคอลส์ 54% กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง 23% เอสซีจีพี 17% และส่วนงานอื่น 6% โดยรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนส่วนใหญ่เป็น การลงทุนด้านกรีน
ทั้งนี้คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนสำหรับปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 35,000 - 40,000 ล้านบาท
พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 ในอัตรา 2.50 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 7 สิงหาคม 2567
กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 8 สิงหาคม 2567