บลจ.จี้‘EA’แจงแผนธุรกิจใหม่ ‘ไทยสมายล์บัส’ ปฏิเสธข่าวถูกเทขายหุ้นทิ้ง
“สมาคมบลจ.” ร่อนหนังสือถึง บอร์ด “อีเอ” ชุดใหม่ ขอทราบแผนเคลียร์หนี้และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ชัดเจน ย้ำนักลงทุนห่วงเบี้ยวจ่ายหุ้นกู้มากกว่าราคาหุ้นฟลอร์ “ไทยสมายล์บัส” แจง EA ไม่มีส่วนเกี่ยวเนื่องโครงสร้างธุรกิจ ปัดข่าวถูกเทขายหุ้น
ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA วานนี้ (24 ก.ค.) พบว่า ราคาปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยหุ้น EA มาอยู่ที่ 4.54 บาท เพิ่มขึ้น 22.04% บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ หรือ BYD มาอยู่ที่ 0.97 บาท เพิ่มขึ้น 2.11% และ หุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ หรือ NEX มาอยู่ที่ 0.80 บาท เพิ่มขึ้น 8.11%
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นักลงทุนมีความกังวลหุ้นกู้ของ EA ที่จะครบกำหนดในปีนี้มูลค่า 5,500 ล้านบาท บริษัทจะสามารถไถ่ถอนได้หรือไม่นั้น หลังจากเมื่อ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา EA แจงขอเลื่อนชำระหนี้ตั๋วบี/อี จำนวน 2 รุ่น มูลค่า 700 ล้านบาท
ดังนั้น หลังจากนี้ ทางสมาคมบลจ. ยังต้องมาติดตามว่า บอร์ดบริหารของ EA ชุดใหม่ จะมีแนวทางการบริหารจัดการหนี้ที่มีอยู่อย่างไร โดยเฉพาะตราสารหนี้ในส่วนของหุ้นกู้ ที่กำลังจะครบกำหนดในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงจะมีวิธีการบริหารจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างไรต่อไป ล่าสุด ทางสมาคมฯ ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังบริษัทแล้ว ขณะนี้ยังรอคำตอบอยู่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ส่วนของหุ้น EA นั้น มีสัดส่วนที่น้อยมากแล้ว ซึ่งผู้จัดการกองทุนมีการบริหารจัดการล่วงหน้า และตลาดยังมีสภาพคล่องสูง ไม่มีนัยที่ส่งผลกระทบต่อกองทุน แต่ยอมรับอาจจะมีผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน จากการที่มูลค่าหุ้น EA จะลดลงมาต่ำกว่าราคาไอพีโอแล้ว แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจน เพราะเห็นว่าราคาหุ้น EA ที่ปรับตัวลงอาจจะไม่ใช่ปัจจัยนี้เท่านั้น และราคาร่วงฟลอร์ฟอร์มก็ยังปรับตัวขึ้นได้
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) เปิดเผยว่า บริษัทยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีกรณีการขายหุ้นจากผู้ถือหุ้นฝ่ายใด อีกทั้งขอชี้แจงว่าตามที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA จะขายหุ้นของบริษัทนั้น น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะ EA ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงสร้างธุรกิจ เป็นเพียงผู้ผลิตรถโดยสารที่บริษัทจัดหามาให้บริการเท่านั้น
อย่างไรก็ดี บริษัทยืนยันว่าขณะนี้ธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง ปัจจุบันมีจำนวนรถเมล์ไฟฟ้าพร้อมให้บริการประชาชน 2,350 คัน ใน 123 เส้นทางที่ได้รับสัมปทานจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และมีแผนจะเพิ่มจำนวนรถโดยสารให้ครบ 3,100 คัน โดยมั่นใจด้วยว่าจะสามารถบริหารสัญญาสัมปทาน พร้อมให้บริการประชาชนด้วยความสะดวกตลอดอายุสัมปทานที่ได้รับ
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จากกระแสข่าวที่ออกมาว่า EA อาจจะมีการขายหุ้นไทยสมายล์บัสนั่น หากเป็นเช่นนั้นจริงมองว่าเป็นสิ่งที่ควรทำและทำถูกต้องแล้ว เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่สามารถอยู่ได้ดี
เนื่องจากว่าสิ่งสำคัญของ EA คือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานมีไม่พอที่จะนำมาชำระหนี้ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้สถาบันการเงิน หนี้หุ้นกู้ รวมไปถึงอื่น ๆ ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันยังไม่สามารถกู้เพิ่มได้ เพราะความเชื่อมั่นยังอยู่ในระดับต่ำ จึงมีความจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นกู้ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้ผ่อนคลายในเรื่องของความเสี่ยงในกรณีขอเลื่อนชำระหนี้ก็จะทำให้มีการลดลงไปในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า จะสามารถขาย ไทย สมายล์ บัส ได้จริงหรือไม่ และขายได้เท่าไร ถัดมาในนักลงทุนที่ถือหุ้น ถ้ามองราคาที่ต่ำบุ๊กมาก ๆ ที่ 0.3 -0.4 เท่า นักลงทุนสามารถเข้าไปเก็งกำไรได้ แต่ในเรื่องของการเติบโต ต้องยอมรับว่า เมื่อตัดธุรกิจรถไฟฟ้าออกไป จะทำให้งบดูดีขึ้น ทำให้เหลือสตอรี่น้อยลง แต่ยังเหลือธุรกิจแบตเตอรี่ และโรงไฟฟ้า ที่ยังคงต้องติดตามกันต่อไป