ดัชนี Nikkei เปิดตลาดดิ่ง 5% ร่วงตาม ดาวโจนส์ ปิดลบ 500 จุด ฉุด ตลาดหุ้นเอเชีย

ดัชนี Nikkei เปิดตลาดดิ่ง 5% ร่วงตาม ดาวโจนส์ ปิดลบ 500 จุด ฉุด ตลาดหุ้นเอเชีย

ดัชนี Nikkei เปิด ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดิ่ง 5% ร่วง 1,907.17 จุด ตาม ดาวโจนส์ ปิดลบ 500 จุด หลังตัวเลขภาคการผลิตอ่อนแอ-ว่างงานสูงเกินคาด กังวลเศรษฐกิจถดถอย ฉุดตลาดหุ้นเอเชีย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานความเคลื่อนไหว ดัชนี Nikkei 225 วันนี้(2 ส.ค.) เปิดตลาดดิ่งกว่า 5% ร่วง 1,907.17 จุด มาอยู่ที่ 36,219 จุด ณ เวลา 8.10 น. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้ดัชนีหลักของตลาดหุ้นญี่ปุ่น แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน

หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในญี่ปุ่น เช่น Softbank ร่วงลงกว่า 7%, Mitsui และ Marubeni ร่วงลงกว่า 9% และ 7% ตามลำดับ

 

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ต่ำกว่าระดับ 1% ซึ่งแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน

ขณะที่ หุ้น Kospi ของเกาหลีใต้ ร่วงลง 2.6% ส่วน ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียร่วงลง 2.02%

หุ้นสหรัฐฉุดตลาดเอเชีย

ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวลดลงตามดัชนีหลักทั้ง 3 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดความกังวลและการเทขายในตลาดหุ้นเอเชีย

ในวันพฤหัสบดี (1 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 40,347.97 จุด ลดลง 494.82 จุด หรือ -1.21%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,446.68 จุด ลดลง 75.62 จุด หรือ -1.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,194.15 จุด ลดลง 405.25 จุด หรือ -2.30%

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เริ่มต้นเดือนส.ค.ด้วยการร่วงลงอย่างหนัก หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2566 จากระดับ 48.5 ในเดือนมิ.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.8

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 249,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย

ลู บาเซนีส หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของบริษัท MDB Capital ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดเกิดความวิตกว่าเฟดอาจตัดสินใจล่าช้าเกินไปในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขณะนี้มีนักลงทุนน้อยมากที่เชื่อมั่นว่าเฟดจะบรรลุเป้าหมายการทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงแบบซอฟต์แลนดิ้ง โดยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดถือเป็นหลักฐานที่สนับสนุนว่าเพราะเหตุใดนักลงทุนจึงกังวลในเรื่องนี้

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางตลาดแรงงาน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. จากระดับ 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนก.ค.