หุ้น SCC หล่น 200 บาทครั้งแรกรอบ 16 ปี ผู้บริหารมองตลาดเคมีภัณฑ์ H2/67 เหนื่อย

หุ้น SCC หล่น 200 บาทครั้งแรกรอบ 16 ปี ผู้บริหารมองตลาดเคมีภัณฑ์ H2/67 เหนื่อย

หุ้น SCC ต่ำกว่าราคา 200 บาท ครั้งแรกรอบราว 16 ปี นับแต่ช่วงเดือนต.ค.2552 หลังกำไร Q2/67 ย่อตัว 54.12% ผู้บริหารระมัดระวังมากขึ้นสำหรับตลาดเคมีภัณฑ์ครึ่งปีหลัง ไม่คาดหวังฟื้นตัวชัด

ราคาหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ในวันนี้ (8 ส.ค.2567) ปรับลดลงชัดเจน ณ เวลา 14:20 น. อยู่ที่ 199.00 บาท ลบ 2.00 บาท เปลี่ยนแปลง -1.00% มูลค่าซื้อขาย 165.83 ล้านบาท โดยถือเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดในรอบราว 16 ปี นับแต่ช่วงเดือนต.ค.2552
 

  • ย้อนหลังราคาปิด สูงสุด ต่ำสุดที่ผ่านมา

ปี 2552 ราคาปิด ณ สิ้นปี 242 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2553 เท่ากับ 361-211 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 253 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2554 เท่ากับ 387-236 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 341 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2555 เท่ากับ 450-310 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 440 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2556 เท่ากับ 502-385 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 400 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2557 เท่ากับ 482-365 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 448 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2558 เท่ากับ 554-412 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 460 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2559 เท่ากับ 550-402 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 496 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2560 เท่ากับ 552-470 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 484 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2561 เท่ากับ 512-404 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 436 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2562 เท่ากับ 490-351 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 392 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2563 เท่ากับ 402-244 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 378 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2564 เท่ากับ 474-364 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 386 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2565 เท่ากับ 402-307 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 342 บาทต่อหุ้น
กรอบราคาสูงสุด-ต่ำสุดในปี 2566 เท่ากับ 360-282 บาทต่อหุ้น ราคาปิด ณ สิ้นปี 306 บาทต่อหุ้น
และ ราคาสูงสุดระหว่างปี 2567 เท่ากับ 307 บาทต่อหุ้น
หุ้น SCC หล่น 200 บาทครั้งแรกรอบ 16 ปี ผู้บริหารมองตลาดเคมีภัณฑ์ H2/67 เหนื่อย

  • ผลประกอบการย่อตัวชัด

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา SCC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 3,707.92 ล้านบาท ลดลง 54.12% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 8,082.24 ล้านบาท และรวม 6 เดือนแรก ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 6,132.78 ล้านบาท ลดลง 75.07% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 24,607.97 ล้านบาท

  • คาดตลาดเคมีภัณฑ์ครึ่งปีหลังเหนื่อย

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ระบุว่า ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์หลังจาก SCC ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/2567ผู้บริหารมีความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดเคมีภัณฑ์สำหรับครึ่งปีหลัง 2567 โดยไม่ได้คาดหวังการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญอีกต่อไป การเติบโตของอุปสงค์ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และการเลื่อนการเริ่มดำเนินการของ capacity ใหม่ในครึ่งปีแรก 2567 อาจนำไปสู่การเพิ่ม Capacity มากกว่าที่คาดไว้ในครึ่งปีหลัง 2567

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมีมุมมองที่มองในแง่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินงานของธุรกิจซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CBM) พวกเขาสังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการก่อสร้าง โดยเฉพาะในภาครัฐ เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลได้เริ่มขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ท้าทายในประเทศไทย พวกเขายังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาคเอกชน

ทั้งนี้แนะนำถือ สำหรับ SCC โดยมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 218 บาท

บล.กรุงศรี ระบุเพิ่มเติมว่า มีมุมมองเชิงลบต่อข้อมูล SCC ในที่ประชุมนักวิเคราะห์ที่โครงการ LSP เลื่อน COD ไปอีก 1 เดือน อาจส่งให้ตลาดกังวลต่อภาระแบกต้นทุนคงที่ต่อเนื่อง (800-1,000 ล้านบาท/เดือน)

ทั้งนี้แนะนำซื้อขายเก็งกำไร ราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 290 บาท

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์