หุ้น TIDLOR ร่วง 15% สวนกำไร Q2/67 บวก กังวลคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ
ราคาหุ้น TIDLOR ดิ่งสร้างนิวโลว์ ท้ายสัปดาห์ร่วงกว่า 15% แม้งบ Q2/67 กำไรบวก 17.7% "บล.ฟิลลิป" ชี้สินเชื่อยังโตแต่ NPL เพิ่มตามหวั่นครึ่งปีหลังตั้งสำรองสูง "บล.ยูโอบี เคย์เฮียน" ระบุกังวลคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ ด้าน "บล.กรุงศรี" หั่นเป้าพื้นฐานเหลือ 14.8 บาท
ราคาหุ้น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (TIDLOR) ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ (9 ส.ค.2567) ปรับลงชัดเจน ณ เวลา 15:28 น. อยู่ที่ 13.30 บาท ลบ 2.40 บาท เปลี่ยนแปลง 15.29% มูลค่าซื้อขาย 890.46 ล้านบาท โดยยังคงสร้างสถิติต่ำสุดครั้งใหม่ต่อเนื่องนับแต่เข้ามาซื้อขายในกระดานหุ้น
- งบ Q2/67 เพิ่มขึ้น 17.7% จากปีก่อน
นายวีรภัทร์ วิริยะโกวิทยา ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายบัญชีและการเงิน TIDLOR เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า งบการเงินไตรมาสที่ 2/2567 กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 1,091.39 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 2/2566 ที่ทำได้ 927.22 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 17.70%
รวม 6 เดือนแรกปี 2567 เท่ากับ 2,195.46 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 1,882.35 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 16.63%
- หนี้เสียพุ่ง กังวลคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แม้กำไรไตรมาส 2/2567 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ทว่ากลับลดลงจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา
ขณะที่สินเชื่อโตต่อ แต่ NPL ก็เพิ่มขึ้นด้วยเป็น 1.86% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 1.6% ทว่าก็ยังถือว่าเป็นระดับที่ต่ำกว่าคู่แข่ง อีกทั้งคาด NPL อาจจะยังเพิ่มขึ้นได้ต่อ และทำให้การตั้งสำรองจะยังคงสูงในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ให้ราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 20.50 บาท
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กำไรสุทธิที่ 1.1 พันล้านบาท (+18% yoy, -1% qoq) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด
อย่างไรก็ตาม Credit cost และ NPL ratio ปรับเพิ่มขึ้น qoq จากการเสื่อมค่าของคุณภาพสินทรัพย์ มองเป็น Negative surprise เราจึงประเมินว่าผู้บริหารจะมีการปรับเป้า Credit cost และ NPL ratio ขึ้น อันเป็นการบ่งบอกถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ ให้ราคาเป้าหมายที่ 18 บาท
- โบรกหั่นราคาเป้าหมายหุ้นลงสะท้อนความเสี่ยง
บล. กรุงศรี เปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการ TIDLOR ในไตรมาส 2/2567 เพราะคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอมากโดยเฉพาะรถบรรทุก โดย 1. NPL formation เพิ่มขึ้นแรง 49% จากไตรมาสก่อนหน้า 2. NPL Ratio เพิ่มแรงทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.86% จาก ไตรมาส 1/2567 ที่ 1.60% 3. ลูกหนี้ Stage 2 ที่ 17.27% เพิ่มต่อจากไตรมาสแรกที่ 16.45% และค่าใช้จ่ายสำรอง (credit cost) ที่ 357 bps. จากไตรมาสแรกที่ 328 bps.
พร้อมกันนี้ ปรับลดราคาเป้าหมายมาที่ 14.80 บาท จากเดิมที่ 19 บาท