OSP งบ Q2/67 กำไรสุทธิ 604 ล้าน เพิ่ม 9.9% ปันผลระหว่างกาล 0.30 บาท
"โอสถสภา" งบ Q2/67 กำไรสุทธิ 604 ล้าน เพิ่ม 9.9% สอดคล้องรายได้ 7,345 ล้าน เติบโต 9.5% โดยกลุ่มเครื่องดื่มขยายตัวทั้งเชิงปริมาณและมูลค่าเพิ่ม พร้อมประกาศปันผลระหว่างกาล 0.30 บาท ขึ้น XD วันที่ 29 ส.ค. 67
นางสาวรติพร ราษฎร์เจริญ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP) แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า งบการเงินไตรมาสที่ 2/2567 กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่เท่ากับ 604.02 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 2/2566 ที่ทำได้ 549.38 ล้านบาท
รวม 6 เดือนแรกปี 2567 เท่ากับ 1,432.52 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 1,327.28 ล้านบาท
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการระบุว่า OSP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% YoY แต่ลดลง 27.196 QoQ โดยเป็นกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Proft from operation) ที่ 923 ล้านบาท เติบโต 68.0% YoY และเติบโด 11.4% QoQ เป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่บริษัทมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ในขณะที่บริษัทมีผลขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติสำหรับไตรมาสนี้จากการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัท Basecamp Brews Limited จำนวน 315 ล้านบาท และการตั้งสำรองเงินให้ที่ให้กู้ยืมของบริษัท อินโนเวชั่น ออฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด จำนวน 4 ล้านบาท
รายได้จากการขายสำหรับไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 7,345 ล้านบาท เติบโต 9.5% YoY และ 1.2% QoQ ผลักดันโดยการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ 11.2% YoY และ 0.4% QoQ รวมถึงการเติบโตผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นที่ 26.3% YoY และ 18.2% QoQ ตามลำดับ ซึ่งช่วยชดเชยการหดตัวลงของรายได้จากการให้บริการผลิตสินค้า (OEM)
ทั้งนี้ รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มขยายตัวจากปัจจัยด้านปริมาณการขายและกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 38.2% เพิ่มขึ้น 4.2% YoY และ 1.7% QoQ เป็นผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศซึ่งมีอัตรากำไรที่สูง ต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลงและประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง
OSP เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 46.4% และครองอันดับหนึ่งในตลาดเครื่องดื่ม Functional Drinks โดยสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดไปถึงระดับ 45.9% เติบโต 3.8% YoY และ 3.0% QoQ
ฐานะการเงินของยังคงแกร่งด้วยสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในระดับต่ำที่ 0.01 เท่า
นอกจากนี้คณะกรรมการมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2567 เป็นเงินสดแก่ผู้ถือหุ้นสามัญอัตรา 0.30 บาท ต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 30 ส.ค. 2567 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 29 ส.ค. 2567 และวันที่จ่ายปันผล 13 ก.ย. 2567
