เทียบฟอร์ม ธุรกิจปั้มน้ำมันใหญ่สุดในตลาดหุ้นไทย ไตรมาส 2/67 ใครกำไรมากสุด
เทียบฟอร์ม ธุรกิจปั้มน้ำมันใหญ่สุดในตลาดหุ้นไทย ไตรมาส 2/67 หุ้น OR กำไรสุทธิ 2,536 ล้านบาท BCP กำไรสุทธิ 1,824 ล้านบาท และ PTG กำไรสุทธิ 468 ล้านบาท
การแข่งขัน ธุรกิจปั้มน้ำ มันยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจะเห็นว่าปั้มน้ำมันไม่ใช่แค่มีให้บริการเติมน้ำมันเท่านั้น แต่หลายๆ ปั้มน้ำมันเริ่มมีพัฒนาเข้าสู่รูปแบบคอมมูนิตี้ หรือบริการส่วน Non-oil ร้านค้า และบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด สถานีปั้มน้ำมัน ปตท. เปิดร้าน “found & found” ร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงาม ตั้งแต่เครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารเสริม และวิตามิน โดย 1 ในพันธมิตรสำคัญคือ สุกิ โฮลดิ้งส์ ที่ได้จับมือ นำแบรนด์คุณภาพ เช่น Prieclat U, S-Select, Under Method และ T3 จากญี่ปุ่น มาจำหน่ายแบบเอกซ์คลูซีฟแล้ว 3 สาขา และมีแผนเปิดบริการครบ 10 สาขา กลางปี 67 และ 500 สาขา ภายในปี 73
ขณะที่ สถานีปั้นน้ำมันบางจาก จับมือกับ อาร์เอสกรุ๊ป เปิด ‘PET ALL MY LOVE’ เพ็ทรีเทล ภายใต้คอนเซปต์ Love-Centric Experience เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และตอบรับเทรนด์คนยุคใหม่ที่เป็น ‘Pet Parent’ เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก นำร่องปีแรก 20 สาขา และขยายให้ครบ 50 สาขาภายใน 3 ปี
ทั้งนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้สำรวจ 3 สถานีปั้มน้ำมันขนาดใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ว่าปัจจุบันมีการขยายสาขามากน้อยแค่ไหน และในไตรมาส 2/67 ใครมีกำไรมากสุด
ธุรกิจปั้มน้ำมัน 3 สถานีปั้มน้ำมัน ในตลาดหุ้นไทย
1. บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) OR
ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 6,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 5,731 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ขายและบริการ 361,922 ล้านบาท ลดลง 23,517 ล้านบาท โดยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากปริมาณจำหน่ายที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility
โดยรายได้ขายและบริการของกลุ่มดังกล่าวลดลง 7.7% อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 8.1% จากทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 15% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในฟิลิปปินส์
ส่วนครึ่งปีแรกมี EBITDA อยู่ที่ 11,016 ล้านบาท ลดลง 121 ล้านบาท หรือ 1.1% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยลดลงจากธุรกิจ Mobility จากภาพรวมกำไรขั้นต้นที่ลดลงตามปริมาณจำหน่าย อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปรับเพิ่มขึ้นจากทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มและธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ กลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มขึ้นตามปริมาณจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในฟิลิปปินส์เป็นหลัก
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 2,536 ล้านบาท ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 2,756 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ขายและบริการ 183,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,0555 ล้านบาท หรือ 3.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจหลักจากราคาจำหน่ายเฉลี่ยต่อลิตรที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจ Mobility
นอกจากนี้ EBITDA ในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 4,843 ล้านบาท ลดลง 1,330 ล้านบาท หรือ ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยลดลงจากกลุ่มธุรกิจ Mobility จากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นจากธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ กลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มขึ้นตามปริมาณจำหน่าย และกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรฟื้นตัวอย่างมากในฟิลิปปินส์เป็นหลัก สำหรับค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- มาร์เก็ตแคป 168,000 ล้านบาท
- ราคา YTD -26.70%
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1
- PTT Station 2,256 สถานี
- FIT Auto 97 สาขา
- EV Station PluZ 859 สาขา
- Cafe Amazon 4,277 สาขา
- ร้านค้าโครงการ ไทยเด็ด 325 สาขา
- 7-Eleven และ Jiffy จํานวน 2,253 สาขา
- บัตรสมาชิก PTT Blue Card
2. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) BCP
ผลดำเนินงานไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 1,823.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 298% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 458.06 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 158,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมี EBITDA จำนวน 10,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62%
สำหรับกลุ่มธุรกิจการตลาด มีปริมาณจำหน่ายรวมอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากการบริหารการจัดจำหน่ายในช่วงหยุดการซ่อมบำรุงโรงกลั่นพระโขนง และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น แต่มีปัจจัยกดดันจาก Spread ระหว่างราคาขายและต้นทุนวัตถุดิบที่อ่อนตัว
ส่วนงวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 4,260.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,199 ล้านบาท โดยสร้างสถิติใหม่ของรายได้จากการขายอยู่ที่ 293,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมี EBITDA 26,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48%
- ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่
- มาร์เก็ตแคป 45,438.46 ล้านบาท
- ราคา YTD -24.14%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1
- ปั้มบางจาก 2,219 สถานี
- บางจากคาร์แคร์ 76 สาขา
- สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 265 สาขา
- ร้านกาแฟอิินทนิิล 1,020 สาขา
- ท็อปส์เดลี่ 15 สาขา
- แฟมิลี่มาร์ท 15 สาขา
- มินิบิ๊กซี 134 สาขา
- ลอว์สัน 2 สาขา
- บัตรสมาชิก BCP Green Miles
3. บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) PTG
ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 352 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 302.9% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 57,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 11.9% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนเป็น 1,716 ล้านลิตร
สาเหตุหลักมาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT เติบโต 13.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งเป็นการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ทั้งจากลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ส่งผลทำให้ไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ สามารถครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เกตแชร์) ผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT เพิ่มขึ้นเป็น 22.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วที่มีสัดส่วน 19.5%
บริษัทฯ ได้มีการปรับเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางจากเดิมที่ 10-12% เป็น 10-15% จากปีก่อนจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางของบริษัทฯ ที่ยังคงสร้างการเติบโตที่สูงจากปัจจัยภายในของทางบริษัทฯ รวมถึงอุปสงค์การใช้น้ำมันในครึ่งปีหลังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และคาดว่าจะขยายจำนวนสถานีบริการเป็น 2,251 สถานีบริการภายในปีนี้
- พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
- มาร์เก็ตแคป 13,944.50 ล้านบาท
- ราคา YTD -4.57%
- บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1
- ปั้มพีที 2,208 สถานี
- Autobacs 68 สาขา
- Elex by EGAT PT 100 สาขา
- ร้านกาแฟพัันธุ์ไทย 1,028 สาขา
- ร้านคอฟฟี่่เวิิลด์ 28 สาขา
- Max Mart 345 สาขา
- บัตรสมาชิก PT Max Card