โบรกเกอร์ ชี้จีดีพีฟื้นหนุน ‘หุ้นแบงก์’ การเมืองปลดล็อก - ลุ้นปล่อยสินเชื่อเพิ่ม
โบรกเกอร์มองการเมืองไทยปลดล็อก ดันดัชนีฯ วานนี้พุ่ง 20 จุด หวังรัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้น ศก.ขานรับ GDP ไตรมาส 2 ดีเกินคาด หนุนหุ้นแบงก์ฟื้นเด่น “บล.กสิกรไทย” ชี้กลุ่มธนาคารจ่อรับอานิสงส์กองทุนวายุภักษ์ “บล.ฟินันเซีย ไซรัส” คงน้ำหนักหุ้นแบงก์ “ทีทีบี” คาดสินเชื่อปีนี้ทรงตัว
ความเคลื่อนไหวหุ้นไทยวานนี้ (19 ส.ค.67) พุ่ง 20.38 จุด มาอยู่ที่ 1,323.38 จุด หรือ 1.56% มูลค่าซื้อขาย 62,368.60 ล้านบาท รับแรงหนุนจากความคืบหน้าทางการเมืองไทย ทำให้นักลงทุนคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่สภาพัฒน์ฯ รายงาน “จีดีพีไทย” ไตรมาส 2 ปี 2567 ขยายตัว 2.3% ดีกว่าคาดที่ 2.2% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งตัวขึ้นจาก 1.5% ไตรมาส 1 ปี 2567 เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
จากการบริโภคที่โตทำให้กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจในประเทศ ปรับตัวขึ้นเด่นกว่าตลาด โดยเฉพาะ “กลุ่มแบงก์” KBANK เพิ่มขึ้น 3.75% , SCB เพิ่มขึ้น 2.90% , KTB เพิ่มขึ้น 2.90% , BBL เพิ่มขึ้น 2.68% , TTB เพิ่มขึ้น 2.86 และ BAY เพิ่มขึ้น 6.70%
นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า หุ้นไทยปรับตัวขึ้นวานนี้ จากตลาดตอบรับเชิงบวก สถานการณ์การเมืองคลี่คลาย เปลี่ยนผ่านนายกฯ เร็ว และยังคงมาจากพรรคเพื่อไทย ทำให้คาดหวังนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลยังคงมีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลัง “แพทองธาร ชินวัตร” แถลงพร้อมเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ
ประกอบกับสภาพัฒน์ฯ รายงานตัวเลข จีดีพีไทย ไตรมาส 2 ปี 2567 ออกมาดีกว่าตลาดคาด สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยน่าจะ “ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว” และคาดน่าจะสามารถ “ฟื้นตัว” ช่วงครึ่งหลังปีนี้ ทำให้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นโดดเด่น จากกลุ่มแบงก์เชื่อมโยงกับภาพเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะในส่วนของอุปสงค์ความต้องการสินเชื่อจากแบงก์
โดยมองหลังรายงานตัวเลขจีดีพีของไทยล่าสุดที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด แนะอาจสามารถซื้อเก็งกำไรต่อได้โดยเฉพาะ KTB TTB SCB ที่คาดจะได้อานิสงส์บวกจากกองทุนวายุภักษ์ หากมองไปข้างหน้า แนะนำยังติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ช่วง 21 ส.ค.67 นี้ และบันทึกการประชุม FOMC minutes ช่วงข้ามคืน
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Head of Global Investment Strategy บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้นไทยฟื้นตัวขึ้น ปัจจัยหนุนจากเมืองไทยนิ่งมีความชัดเจนขึ้น น่าจะส่งผลบวกต่อการเร่งรัดเบิกจ่ายงบภาครัฐ และลงทุนภาคเอกชนกลับมาฟื้นตัวดีช่วงที่เหลือปีนี้ และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัว อัตราเงินเฟ้อที่คาดจะเร่งขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี หนุนหุ้นกลุ่มที่ได้
นำโดยกลุ่มแบงก์ปรับขึ้นยกแผง จากมุมมองเรื่องเศรษฐกิจไทยที่จะฟื้น คาดหวังนโยบายกระตุ้นของ นายกฯ และครม.ใหม่ ยังคงให้น้ำหนักหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบระยะสั้นจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบของ ธปท. กดดันแนวโน้มระยะสั้น โดยมี TTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร
นางสาวดารารัตน์ อุระพันธมาศ Head of Investor Relations ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TTB เปิดเผยว่า ปีนี้ยอมรับว่าสินเชื่อจะทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (Flat) ขณะที่การโตเงินฝากจะสอดคล้องกับการโตของสินเชื่อ ทั้งการโตสินเชื่อบ้าน และรถยนต์ ด้านครึ่งหลังความกดดันต้นทุนเงินฝากจะมีไม่มาก คาดยังคงเป้าหมาย NIM ไว้ที่ 3.1-3.25% งบลงทุน 1-3 ปีข้างหน้า พยายามบริหารจัดการให้อยู่ในกรอบงบลงทุนปกติ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังคงอยู่ในกรอบที่วางไว้ โดยตั้งเป้าคุมไม่เกิน 2.9% ปัจจุบัน NPL อยู่ที่ 2.6%
นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ ประธานกลุ่ม งานกลยุทธ์องค์กร และดิจิทัลใบอนุญาต TTB กล่าวว่า การเข้ามาของ Virtual bank ปัจจุบันตลาดไทยไม่มีช่องให้ตัดราคาอีกต่อไป เนื่องจากปัจจุบันไทยมีการพัฒนา Mobile ค่อนข้างมาก และ Digital Payment ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม ส่งผลให้หาก virtual bank จะเข้ามาทำตลาดโดยการตัดราคาคงทำได้ยาก และมองว่าธนาคารไทยมีจุดแข็งด้านประสบการณ์ การทำงานกับลูกค้าค่อนข้างมากด้วย ขณะที่การลงทุนในเงินดิจิทัล Bitcoin ยืนยันธนาคารมีการลงทุนแบบระมัดระวัง และที่ผ่านมาไม่มีนโยบายการลงทุนสินทรัพย์ประเภทดังกล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์