เบียร์ช้าง DR 'THAIBEV19'  เปิดเทรดบนกระดานหุ้นไทยวันแรก Consensus เผยครึ่งปีหลังกำไรพุ่ง   

เบียร์ช้าง DR 'THAIBEV19'  เปิดเทรดบนกระดานหุ้นไทยวันแรก Consensus เผยครึ่งปีหลังกำไรพุ่ง   

เบียร์ช้าง DR 'THAIBEV19' เปิดเทรดบนกระดานหุ้นไทยวันแรก บวก 0.85% หรือราคาเพิ่ม 0.11% หรืออยู่ที่ระดับ 13.10 บาท "นักวิเคราะห์" ระบุ Bloomberg Consensus เผยครึ่งปีหลังกำไรพุ่ง   

ความเคลื่อนไหว DR “THAIBEV19” อ้างอิงหุ้นบริษัท Thai Beverage Public Company Limited ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำ ดำเนินธุรกิจใน 90 ประเทศทั่วโลก ที่เปิดเทรดบนกระดานหุ้นวันแรก บวก 0.85% หรือราคาเพิ่ม 0.11% หรืออยู่ที่ระดับ 13.10 บาท  

เบียร์ช้าง DR \'THAIBEV19\'  เปิดเทรดบนกระดานหุ้นไทยวันแรก Consensus เผยครึ่งปีหลังกำไรพุ่ง   

จารุชาติ บูชาชาติ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาพรวมของไทยเบฟฯ ผลประกอบการครึ่งปีแรก EBITDA ดร็อปลง YoY เนื่องจากว่ามาร์จิ้นยอดขายเบียร์ทั้งไทยและเวียดนามชะลอตัวลง ขณะที่ คอนเซนซัส ระบุว่า ในครึ่งปีหลังยอดขายเบียร์จะกลับมาเติบโต YoY ได้ จากการบริโภคของเวียดนามที่ฟื้นตัวได้ และในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์จะทำให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้การปิดปีผลการดำเนินงานของไทยเบฟฯ ไม่เหมือนบริษัทอื่น ๆ จึงทำให้ช่วงสงกรานต์อยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับจำนวนนักท่องเกี่ยวต่างชาติที่สูงขึ้น และอากาศที่ร้อนกว่าปกติ รวมถึงการได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯทั้งนี้ราคาหุ้นลงมาพอสมควร จึงมองว่า ราคาหุ้นยังคงมีอัพไซด์อยู่
  
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนปัจจัยลบจากผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่อ่อนแอไปแล้ว โดยปัจจุบัน Bloomberg Consensus ให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 สำหรับ THBEV19 ที่ SGD 0.63 คิดเป็นราคาเป้าหมายของ DR ที่ 16.59 บาท/DR ราคาหุ้นในปัจจุบันถูก De-rated ลงมาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ซึ่ง Consensus มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง10.2% YTD สะท้อนปัจจัยลบจากผลประกอบการใน 1H67 ที่อ่อนแอไปมากแล้ว ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในระยะถัดไปคาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น"

บริษัทรายงานกำไรปกติในครึ่งปีแรก เดือนต.ค.ค.66-มี.ค.67 ที่ 15.2 Wuau.(+35% HoH,-6Y) จากยอดขายเบียร์ทั้งในไทยและเวียดนามที่ลดลง 5% และ 6% ตามลำดับ ขณะที่ GPM อยู่ที่ 30.4% สูงขึ้นจาก 29.4% ในครึ่งปีแรกหนุนจากรับรู้การปรับตัวลงของราคาต้นทุนวัตถุดิบ

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (ไทยเบฟ หรือ กลุ่มบริษัทไทยเบฟ) ประกอบธุรกิจผลิต นำเข้า และจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่

1) สุรา (Spirits) ประกอบด้วยแบรนด์รวงข้าว หงส์ทอง เบลนด์ 285 แสงโสม แม่โขง และแบรนด์ รอยัล วิสกี้ 
2) เบียร์ (Beers) ประกอบด้วยแบรนด์ช้าง Bia Saigon และ 333
3) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcohol) ประกอบด้วยแบรนด์ ชาเขียวโออิชิ เครื่องดื่มอัดลมเอส โคล่า น้ำดื่มคริสตัล เครื่องดื่มอัดลม F&N และเครื่องดื่มเกลือแร่ 100PLUS และ
4) ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ของโออิชิ 

ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทส่วนใหญ่จะเน้นการจำหน่ายภายในประเทศไทยเป็นหลัก สัดส่วน 72% และบางส่วนส่งออกไปเวียดนาม สัดส่วน 22% และประเทศอื่นๆ สัดส่วน 6%

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรับจดทะเบียนตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) 3 หลักทรัพย์ใหม่อ้างอิงหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ “DBS19” “THAIBEV19” และ “UOB19” ออกโดย บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) โดยจะเริ่มซื้อขาย 22 สิงหาคม นี้

 
DR ใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียนเป็นการดำเนินการตามโครงการ “Thailand-Singapore DR Linkage” ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ไทยและสิงคโปร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ DR ทั้งนี้ DR ที่จะเข้าจดทะเบียนใหม่มี จำนวน 3 หลักทรัพย์อ้างอิงหุ้นในตลาดสิงคโปร์ ดังนี้

“DBS19” อ้างอิงหุ้นบริษัท DBS Group Holdings Ltd ผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในเอเชีย มีเครือข่ายครอบคลุม 19 ตลาดทั่วโลก โดย DBS Bank เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“THAIBEV19” อ้างอิงหุ้นบริษัท Thai Beverage Public Company Limited ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำ ดำเนินธุรกิจใน 90 ประเทศทั่วโลก

“UOB19” อ้างอิงหุ้นบริษัท United Overseas Bank Limited ผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำ มีสาขา 500 แห่งใน 19 ประเทศทั่วโลก

ปัจจุบัน มี DR ที่เข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ไทยและสิงคโปร์ภายใต้โครงการ จำนวน 14 หลักทรัพย์ โดยเป็น DR ที่อ้างอิงกับหุ้นไทยและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์จำนวน 8 หลักทรัพย์ (หุ้นอ้างอิงได้แก่ ADVANC, AOT, CPALL, DELTA, GULF, KBANK, PTTEP และ SCC) และเป็น DR ที่อ้างอิงกับหุ้นสิงคโปร์และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย จำนวน 9 หลักทรัพย์ (รวม 3 DR ใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ โดย 6 DR เดิมอ้างอิงหลักทรัพย์ ได้แก่ iShares MSCI India Climate Transition ETF, SIA, SINGTEL, SPDR Gold Shares ETF, ST Engineering และ VENTURE)