ก.ล.ต. แนะผู้ถือหุ้นกู้ EA เคลียร์ข้อสังสัยก่อนโหวต

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์  จำกัด (มหาชน) หรือ EA  จัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น EA249A  วันนี้ (23 ส.ค.) หลังเลื่อนประชุมจาก 14 ส.ค. ที่ผ่านมา เหตุองค์ประชุมไม่ครบ เพื่อขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ขยายวันไถ่ถอนอีก 9 เดือน 1 วัน เพิ่มดอกเบี้ยเป็น 5.00% ต่อปี

พร้อมกับ เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ที่เหลือทั้ง 12 ชุด 27 ส.ค. นี้ ขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ กรณียืดหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น-หุ้นกู้ 2 ชุดแรก รวมถึงการเสนอปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย การให้หลักประกัน และการเข้าทําสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อสิทธิ 

จากก่อนหน้านี้ ผู้ถือหุ้นกู้อีเอทุกชุดออกมาเรียกร้องขอให้บริษัทจัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมด เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน และขอให้ตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้ให้ได้รับความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียม โดยขอให้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกชุดพร้อมกันภายในวันที่ 30 ส.ค.นี้ 

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่า กรณีหุ้นกู้อีเอที่ดำเนินการอยู่มองว่าในแง่ของความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นกู้ ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ซึ่งการขอยืดหนี้หุ้นกู้อีก 1 รุ่น หากมองในมุมของผู้ถือหุ้นกู้ อาจมองถึงประโยชน์ของหลักประกันที่เพิ่มเติมเท่ากัน  และการเปิดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ อีก 12 รุ่น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นกู้ได้มีสิทธิได้ซักถาม และรับทราบข้อมูลอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม 

การตัดสินใจโหวตผ่านหรือไม่ผ่าน ขึ้นกับการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นกู้ทุกคน ดังนั้น ก.ล.ต.ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นกู้ในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วน ประกอบการตัดสินใจออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ด้วย 

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า กรณีหุ้นกู้อีเอยังไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อตลาดหุ้น เพราะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังรอติดตามผลการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ EA249A ในวันนี้ก่อนคาดน่าจะเปิดประชุมได้ไม่มีปัญหา และมีโอกาสที่จะลงมติไปในทิศทางเดียวกับ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ EA248A กลุ่มนักลงทุนสถาบัน โหวตอนุมัติเลื่อนระยะเวลาไถ่ถอน และเพิ่มหลักประกันให้ 

ส่วนการเปิดประชุมผู้ถือหุ้นกู้อีเออีก 12 รุ่น ที่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ถึง 2 ราย หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ซึ่งเป็นวาระเพื่อทราบและขอมติผู้ถือหุ้นกู้กรณีที่ยืดหนี้หุ้นกู้บางรุ่นไปแล้ว ไม่เข้าเหตุผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้รุ่นอื่นๆ ด้วยนั้น  มองว่า การดำเนินการของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เป็นการทำหน้าที่ระมัดระวังและเปิดเวทีในการสื่อสารให้กับนักลงทุน ได้มีโอกาสซักถามและทราบถึงผลกระทบต่างๆ เนื่องจากวาระที่ขอมติผู้ถือหุ้นกู้ดังกล่าว เป็นประเด็นของการตีความทางกฎหมายที่ยังมีความเห็นแตกต่างกันและกำกวมอยู่ 

“การที่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จัดประชุมชี้แจงให้ข้อมูลต่างๆ และให้ผู้ถือหุ้นกู้ทุกคน มีโอกาสซักถาม รับทราบข้อมูลทั้งหมดเพื่อตัดสินใจ ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะในประเด็นนี้บางส่วนก็มีข้อโต้แย้งว่า ไม่จำเป็นต้องข้อมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ก็ได้ สะท้อนได้ว่าผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มีความระมัดระวังในการทำหน้าที่ เพื่อไม่ให้ถูกร้องเรียนภายหลังคงต้องรอติดตามต่อไปว่า หากผู้ถือหุ้นกู้โหวตมติดังกล่าวไม่ผ่านหลังจากนั้นคงจะวุ่นวายอยู่บ้างว่าจะตีความในประเด็นนี้กันอย่างไรต่อไป”