6 หุ้นเด่นวัสดุก่อสร้างได้ผลบวกหากน้ำท่วมคลี่คลาย

"สถานการณ์น้ำท่วม"ในประเทศไทยแม้จะเป็นปัจจัยลบต่อภาคเศรษฐกิจ รวมถึงผลมีกระทบระดับจุลภาคต่อผู้ประสบภัยในพื้นที่ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งก็ย่อมมีธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมภายหลังสถานการณ์คลี่คลายซึ่งผลประกอบการมีโอกาสดีขึ้นมากกว่าปกติ

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ระบุว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยฝั่งภาคเหนือ ฝ่ายวิเคราะห์ยังเชื่อว่าสถานการณ์ยังไม่น่ากังวล หากพิจารณา 4 เส้นทางน้ำหลักจากภาคเหนือในปัจจุบันได้แก่

- แม่น้ำยม จุดที่มีปัญหาในปัจจุบัน จ.แพร่ ซึ่งไม่มีเขื่อนหลักที่ค่อยหน่วงมวลน้ำ แต่หากมองเส้นทางน้ำอื่นอีก 3 ส่วนหลัก กลุ่มที่เริ่มเสี่ยง คือ เส้นทางแม่น้ำวัง
- แม่น้ำปิง ที่มีเขื่อนภูมิพล ปัจจุบันปริมาณน้ำอยู่ที่ราว 44% vs 25 ส.ค. 2554 ปีน้ำท่วมระดับน้ำอยู่ที่ 75%
- แม่น้ำวัง ที่มีเขื่อนกิ่วคอหมา ปัจจุบันปริมาณน้ำอยู่ที่ราว 79% (vs 25 ส.ค. 2554 ปีน้ำท่วมระดับน้ำอยู่ที่ 79%) เขื่อนกิ่วลม ปัจจุบันปริมาณน้ำอยู่ที่ราว 59% (vs 25 ส.ค. 2554 ปีน้ำท่วมระดับน้ำอยู่ที่ 39%)
- จ. น่าน ที่กำลังท่วมอยู่ในฝั่งแม่น้ำน่าน ปัจจุบันที่มีเขื่อนสิริกิติ์ปริมาณน้ำอยู่ที่ราว 69% (vs 25 ส.ค. 2554 ปีน้ำท่วมระดับน้ำอยู่ที่ 93%)

ทั้งนี้ หากตั้งสมมติฐานผลกระทบอยู่ในวงจำกัด จ.แพร่ จ.น่าน และอาจจะมีในส่วนสุโขทัย 

มองกลุ่มหุ้นที่ได้รับจิตวิทยาลบ อาทิ ค้าปลีก แต่เบื้องต้นยังมองเป็นจำนวนสาขาในพื้นที่ดังกล่าวไม่มาก

ส่วนจิตวิทยาบวก คือ กลุ่มขายวัสดุก่อสร้างที่มีโอกาสได้ประโยชน์การซ่อมแซมระยะถัดไปหลังน้ำท่วมคลี่คลาย อาทิ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC, บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO, บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA และ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เป็นต้น