หุ้นโดเมสติก ของดีคู่พอร์ตยามเศรษฐกิจประเทศมีความหวัง

หุ้นโดเมสติก ของดีคู่พอร์ตยามเศรษฐกิจประเทศมีความหวัง

การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเลือกลงทุนหุ้นถือเป็นวิถีปกติที่ต้องเกิดขึ้นเสมอหากนักลงทุนต้องการผลกำไรสูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า

หนึ่งในรูปแบบที่นิยมคือ การจำแนกกลุ่มหุ้นตามลักษณะพื้นฐานธุรกิจ หรือตามความเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกเช่น สภาพเศรษฐกิจ ซึ่งในการมองภาพเชิงกว้างอาจจำแนกกลุ่มจากการได้ประโยชน์จากแหล่งที่มาของการสร้างรายได้ โดยกลุ่มหุ้น “โดเมสติก” หรือ Domestic Play มักจะเป็นที่ถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาเสมอเมื่อประเทศเริ่มมีสัญญาณการฟื้นของเศรษฐกิจ และมักจะเป็นกลุ่มหุ้นที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างชัดเจนบนสถานการณ์ดังกล่าว

Domestic Play ความหมายตรงตัวก็คือ การเข้าไปมีส่วนร่วมภายในประเทศ ดังนั้นหุ้นในประเภทนี้จึงหมายถึงหุ้นของกิจการที่เน้นดำเนินธุรกิจและสร้างรายได้หลักภายในประเทศ ไม่ได้มีการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากนัก

อีกทั้งจากการที่หุ้นประเภทนี้มักได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศโดยตรง หากเศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตดี หรือแม้กระทั่งแค่มีความหวังอันชัดเจนว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะพลิกฟื้นในวันข้างหน้า ราคาหุ้นบริษัทเหล่านี้ก็มีโอกาสเติบโตตามไปด้วย

โดยตรงข้ามกับหุ้นประเภท Global Play ที่มีการดำเนินธุรกิจข้ามชาติ มีรายได้จากหลายประเทศทั่วโลก และย่อมจะกลายเป็นตัวเลือกรองๆ ในเวลาที่เศรษฐกิจในประเทศมีภาพปัจจัยบวกที่เด่นชัดกว่า

ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำช่วงเศรษฐกิจในประเทศขยายตัว ควรเลือกหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ หรือหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุน ในขณะที่ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ควรเลือกหุ้นกลุ่มที่ป้องกันความเสี่ยง เช่น หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค หรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อย่างไรก็ตามในรายละเอียดตัวหุ้นก็ต้องพิจารณาย้อนหลังให้ลึกลงไปอีกชั้นว่า แหล่งรายได้มั่นคงสม่ำเสมอหรือไม่ด้วย

หุ้นโดเมสติก ของดีคู่พอร์ตยามเศรษฐกิจประเทศมีความหวัง

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปัจจุบันจะไม่ดี จีดีพีโตได้ต่ำ การค้าในประเทศฝืดเคืองจากการเข้ามาตีตลาดของสินค้าต่างชาติราคาถูก แถมระดับหนี้ภาคครัวเรือนสูง แต่จากการที่ปัญหาการเมืองเพิ่งคลี่คลายกระทั่งใกล้จะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้ามาแถลงและผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งรวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และหลายโครงการลงทุนโครงสร้างขนาดใหญ่ ย่อมทำให้กลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค รับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น รับประโยชน์โดยตรง

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ ระบุว่า ความคาดหวังเชิงบวกใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งมีความคืบหน้ารวมถึงการแถลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รออยู่ เช่นการแจกเงิน 1 หมื่นบาทแก่กลุ่มเปราะบาง และอีกหนึ่งปัจจัยที่ตลาดดูเหมือนจะมีความคาดหวังสูงมากขึ้นคือการเสนอขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ของกองทุนวายุภักษ์ โดยตราบใดที่ความคาดหวังข้างต้นยังคงดำรงอยู่มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังยืนแข็งแกร่งอยู่ได้ในระยะสั้น

โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play อย่างค้าปลีกและไฟแนนซ์ ที่น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์หลักจากมาตรการ Digital Wallet มอง บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS และ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เป็นตัว Laggard เทียบราคาจากต้นปีถึงปัจจุบันที่ยังคงน่าสนใจ หากจะต้องเลือกเข้าซื้อในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี ด้วยเชิงมูลค่า (Valuation) ของ SET Index ที่สูงขึ้นทุกขณะทำให้ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำ Wait & See ในภาพรวม และเชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังเดือน ก.ย. 2567 ที่เริ่มหมดข่าวดีในประเทศและมีความเสี่ยงจากปัจจัยนโยบายดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เข้ามา อาจทำให้ SET Index มีการย่อตัวลงมาอีกครั้ง

สอดคล้องกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ที่เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่ม Domestic Play ได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ตลาดหุ้นคาดหวังจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาวทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ระดับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับเพิ่มยังมาจากการกลับมาของกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1-1.5 แสนล้านบาทที่คาดเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดหนุนการฟื้นตัวต่อในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 นี้

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรช่วงครึ่งหลังของปี 2567 แข็งแกร่งต่อเนื่อง สำหรับหุ้นเด่นเดือน ก.ย. 2567 ได้แก่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL

และ บล. กรุงศรี เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยคาดหวังความคืบหน้านโยบายเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงกองทุนวายุภักษ์ สนับสนุนหุ้นกลุ่มสื่อสารมี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เป็นตัวเด่นในฐานะหุ้น Domestic Play ที่อยู่ในขาขึ้น (Upcycle) ช่วง 1-2 ปีนี้