FETCO หารือ‘กลต.-ตลท.’ ปั้น ‘สตาร์ดวงใหม่’ เสริมเสน่ห์หุ้นไทย
“เฟทโก้” มองฟันด์โฟลว์ทยอยเข้าหุ้นไทยต่อ ขานรับหากรัฐบาลเดินหน้านโยบายต่อเนื่อง-ทำได้จริง เผยหารือ “ก.ล.ต.-ผู้จัดการตลท.คนใหม่” เร่งปั้นสตาร์ดวงใหม่ ชู “กลุ่มเทคฯ-สตาร์ตอัป” เสริมเสน่ห์ ดูดเงินลงทุน ฝั่ง “นักลงทุนสถาบัน” ชี้ความเชื่อมั่นกลับมาดันดัชนีฯ ไปต่อ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า กระแสเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เริ่มกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. (1-10ก.ย.) ซื้อสุทธิ 19,702.37 ล้านบาท แต่ยังน้อยกว่าหากเทียบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (1 ม.ค.-10 ก.ย.) ขายสุทธิ 105,045.54 ล้านบาท และกลับเข้ามาทยอยซื้อในฝั่งบอนด์ไทย 2-3 เดือนที่ผ่านมา
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี และมองว่า หลังจากนี้แนวโน้มฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังมีโอกาสทยอยไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
เนื่องจากมาตรการเพิ่มเติมทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย เม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG และกองทุนวายุภักษ์ 1 รวมเป็นเม็ดเงินเพิ่มเข้ามาอีกกว่า 200,000 ล้านบาท ที่จะทยอยเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้
ประกอบกับสถานการณ์การเมืองไทยคลายความกังวลได้ หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ดังนั้น รอติดตามแถลงนโยบายรัฐบาล และความคาดหวังความต่อเนื่องของนโยบาย และทำนโยบายให้เกิดขึ้นได้จริง ทั้งมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าโครงการลงทุนภาครัฐเดิมที่มีอยู่แล้ว เตรียมโครงการลงทุนภาครัฐใหม่ และสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการดึงฟันด์โฟลว์ใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า มองว่า ตลาดหุ้นไทยต้องสร้างผลิตภัณฑ์ที่ต่างชาติสนใจดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาเพิ่มเติม ขณะนี้ทางเฟทโก้ หารือกับเลขาธิการ ก.ล.ต. และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ฯ คนใหม่ ที่ต้องการสร้างสตาร์ตัวใหม่ ๆ ทั้งการหาสตาร์จากกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีอยู่ และสร้างใหม่ๆ เช่น กลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยี สตาร์ตอัป เพื่อเข้ามาเสริมเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย
“เมื่อเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า และยังลดดอกเบี้ยต่อเนื่องไปอีก 1ปีครึ่ง ถึง 2 ปี โดยลด 0.25% ทุกไตรมาส เมื่อการปรับลดดอกเบี้ยอย่างพร้อมเพียงในทุกตลาดทั่วโลก สนับสนุนตลาดหุ้นทั่วโลกและหุ้นไทยช่นกัน มองว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ได้แย่และไม่ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐานต่อตลาดหุ้นไทย ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเร็ว และกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ยังเติบโตได้จากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีตามเศรษฐกิจโลก หลังจากนี้”
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทยจำกัด (มหาชน) และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยดีขึ้นมาก สะท้อนจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อวันหลายหมื่นล้านบาท ถือว่าค่อนข้างมาก และนักลงทุนสถาบันในประเทศเดือน ก.ย.นี้ โดยเริ่มกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย และยังมีความต้องการลงทุนในกองทุนวายุภักษ์หนึ่งจะเห็นได้ว่าวงเงินสำหรับนักลงสถาบันในประเทศ สูงถึง 1-1.2 แสนล้านบาท
ขณะที่ สถานการณ์การเมืองไทยเริ่มนิ่ง และมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้เร็ว เพื่อเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทย ต้องรอจับตาการแถลงนโยบายรัฐบาลชัดเจนก่อน ซึ่งมองว่า นโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้กลุ่มเปราะบาง มีกำลังจับจ่ายใช้สอยและเริ่มเก็บออมมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่อยู่ในฝั่ง K ขาล่างกลับมาฟื้นตัวได้ และหากนโยบายการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยทำได้ต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนให้กำไรบจ.ยังเติบโตต่อไปได้อีก มองว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้แน่นอน
นอกจากนี้ ยังมองว่าตลาดหุ้นไทย แม้จะไม่มีกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง ถือว่ามีระดับ P/E ไม่สูง หรือต่ำจนเกินไป ทำให้มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค และกำไรบจ. ภาพรวมส่วนใหญ่ยังปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งช่วยดึงดูดฟันด์โฟลว์ต่างชาติน่าจะทยอยกลับเข้ามาตลาดหุ้นไทยมากขึ้น