EA ลั่นปิดดีลพันธมิตรปีนี้ หวังเงินใหม่ เร่งผลงาน ‘เทิร์นอะราวนด์’ ปีหน้า

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า สำหรับความคืบหน้าหาพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วยพลิกฟื้นธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดโฟกัสบริษัทกลับมาเทิร์นอะราวนด์ในปีหน้า

ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายรายทั้งในและต่างประเทศ หากได้ข้อสรุปชัดเจนจะนำเสนอคณะกรรมการบริษัท และจากนั้นก็จะไปขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น ซึ่งวางเป้าหมายปิดดีลให้สำเร็จเร็วที่สุดหรือภายในสิ้นปีนี้ 

โดยบริษัทคาดหวังเม็ดเงินใหม่จากพันธมิตรใหม่ราว 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นจุดที่เพียงพอทำให้บริษัทเทิร์นอะราวนด์ เพื่อนำไปใช้ดำเนินธุรกิจในมือที่บริษัทได้เซ็นสัญญาแล้ว ได้แก่ โครงการที่ร่วมกับรัฐบาล สปป.ลาวในบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแบบรวมศูนย์ของ สปป.ลาว, โรงไฟฟ้าขยะภูเก็ต และโรงไฟฟ้าขยะปทุมธานี  และด้วยสถานการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้น บริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้นกว่าปัจจุบัน ช่วยลดความเสี่ยงธุรกิจทำให้บริษัทเจรจากับสถาบันการเงิน  หรือโรโอเวอร์หุ้นกู้รวมถึงการชำระหนี้หุ้นกู้บางส่วน ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนพ.ค.2568ได้ 

 

“ตอนนี้ฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างการเจราคัดเลือกพาร์ตเนอร์ กำลังพิจารณาคงต้องใช้เวลา เพราะพาร์ตเนอร์มาในรูปแบบที่แตกต่างกัน และเราเปิดโอกาสทั้งพาร์ตเนอร์รายเดียวและรายกลุ่ม ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญต้องคัดเลือกอย่างระมัดระวัง การเลือกพาร์ตเนอร์ต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด โฟกัสที่บริษัทและเราแคร์ผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วยในใจเราอยากให้ดีลจบภายในสิ้นปีนี้ เพื่อบริษัทกลับมาเทิร์นอะราวนด์ในปีหน้า”

ส่วนกรณี บริษัท วินด์ กาฬสินธุ์ 2 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของอีเอได้ถอนฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในคดีโรงไฟฟ้าพลังลมไปแล้ว เนื่องจากต้องการโฟกัสการแก้ปัญหาทางธุรกิจมากกว่าที่จะต้องการต่อสู้คดี พร้อมกับยืนยันเรื่องถอนฟ้องครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวโยงกับการเจรจาพาร์ตเนอร์ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ บริษัทไม่มีนโยบายตัดขายธุรกิจใดๆ ออกไป โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า แม้ยอดขาย บมจ.เน็กซ์พอยท์ (NEX) ปีนี้อาจสะดุดไปบ้าง แต่เชื่ออนาคตยังไปต่อได้ หากธุรกิจกลุ่มอีเอฟื้นกลับมาก็จะทำให้ความเชื่อมั่นกับวงการจะกลับมาเช่นกัน เพราะที่ผ่านมาผู้ใช้รถ EV เชิงพาณิชย์ก็พอใจ 

“เราเดินหน้าหาพาร์ตเนอร์ เราไม่ต้องการขายธุรกิจออกไป เราไม่เคยพูดแต่ด้วยหนี้สินบางส่วนที่มีอยู่อาจไม่มีทางเลือกที่เราอาจจำเป็นต้องขายทรัพย์สินบางส่วนออกไปหรือไม่ แต่ยังเชื่อการขายธุรกิจออกไป ไม่ใช่ทางออกหลักของเรา แต่ทางออกหลักคือหาพาร์ตเนอร์เพื่อนำบริิษัทเดินหน้าไปสู่ Next Level” 

วานนี้ (16 ก.ย.) ราคาหุ้นกลุ่มEA รวมถึงหุ้นในกลุ่มเดียวกัน หุ้นNEX และ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) ปรับตัวขึ้นโดดเด่นตลอดทั้งวัน โดยหุ้น EA ปิดพุ่ง 29.63% หุ้น NEX ปิดพุ่ง 30.61% และ หุ้น BYD ปิดพุ่ง 27.14%

ส่วนราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงวานนี้มองไม่น่าจะมีปัจจัยพิเศษอะไรเกิดขึ้นน่าจะเป็นการปรับฐานหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพี/อีของอีเอต่ำกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแตะสองหลักครั้งแรกถือว่าเป็นเรื่องดี นักลงทุนรายย่อยทำให้น่าจะสบายใจขึ้นและน่าจะเป็นเรื่องที่นักลงทุนเห็นบริษัทสามารถบริหารจัดการแก้ไขปัญหาวิกฤติของบริษัทได้ดีขึ้นต่อเนื่องด้วยเช่นกัน 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการเลื่อนหุ้นกู้แต่ละชุดไป และครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่เข้าสู่ไฮซีซั่นผลประกอบ เนื่องจาก EA มีไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งส่วนนั้นจะเข้ามาช่วยเร่งผลประกอบได้ แต่ราคาหุ้น EA ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงไม่ใช่เพียงแต่ตัวเดียว แต่หุ้นในกลุ่ม EA อย่าง NEX และ BYD ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาด้วย

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมหุ้นยังคงมีการเก็งกำไรราคากับปัจจัยที่เข้ามากระทบเป็นหลัก แต่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทยังคงมีความไม่แน่นอนในหลาย ๆ ปัจจัย รวมถึงตลาดค่อนข้างมีข่าวลือมาก ไม่ว่าการมีพาร์ตเนอร์ใหม่เข้ามา หรือพาร์ตเนอร์ 2 รายที่มีการพูดคุยอยู่ เป็นต้น