โบรกยก‘หุ้นอินฟราเทค’เด่น ดาต้าเซ็นเตอร์-เวอร์ชวลแบงก์-เงินดิจิทัล หนุน

กระแสปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังเป็นเมกะเทรนด์ของโลก และหนึ่งใน “จิ๊กซอว์” สำคัญต่อยอดเทคโนโลยีดังกล่าวคือ การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ในการสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) และโครงการเกี่ยวกับพลังงาน เนื่องการประมวลผลของ AI จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานจำนวนมหาศาลในการสนับสนุน ซึ่งความต้องการ AI ที่กำลังเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ Data Center และพลังงานที่ยั่งยืนจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในอนาคต

นายสุวัฒน์ วัฒนพรพรหม ผู้อำนวยการสายงานวิจัยและบริการการลงทุ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัจจัยขับเคลื่อนธุรกิจ หลังจาก Microsoft x Blackrock ประกาศลงทุนศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center มูลค่าเม็ดเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 3.34 ล้านล้านบาท โดยดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) จำนวน 1 เมกะวัตต์ (MW) ใช้เงินลงทุนราว 400 ล้านบาท 

ทั้งนี้ มีการประเมินเพิ่มกำลังให้บริการโลกเพิ่ม 8,350 เมกกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 18% จากฐานกำลังให้บริการปัจจุบันโลกที่ 45,180 เมกะวัตต์ โดยมองว่าอาเซียนและรวมถึงประเทศไทยน่าจะมีภาพการเร่งมากกว่า สะท้อนจากกระแสการเร่งลงทุนของภูมิภาคดังกล่าวในระยะหลัง ซึ่งระยะหลังนำมาสู่ Cloud Adoption คือ การบริการที่ครอบคลุมถึงการให้ใช้กำลังประมวลผล หน่วยจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่างๆ จากผู้ให้บริการ เพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้ง ดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลา และ AI Adoption คือ การนำเอาเทคโนโลยี AI เข้าไปใช้งานจริงกำลังขยายตัวเข้าไปในทุกอุตสาหกรรม

รวมถึงล่าสุด โค้งสุดท้ายขอรับใบอนุญาตเวอร์ชวลแบงก์ (Virtual Bank) ปิดรับ 19 ก.ย. 2567 นี้ โดยมองกระแสคึกคัก จากผู้ขอรับใบอนุญาตน่าจะสูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องการ 3 ราย ซึ่งช่วยหนุนการลงทุนงานดิจิทัล (Digital) และโครงการสนับสนุนเงินเพื่อกระตุ้นบริโภค เฟส 2 เดินหน้าภายใต้รูปแบบเงินดิจิทัลอีกด้วย  

ดังนั้น เรามองว่าจากปัจจัยดังกล่าว มองว่ามีโอกาสสูงที่หุ้นในธีมอินฟราเทคฯ “Infa Tech” จะเคลื่อนไหวเด่น และ ในเชิงกลยุทธ์ หุ้นธีม Infra Tech ถือเป็นหนึ่งใน Thematic Theme หลักของการลงทุนใน 3-5 ปีข้างหน้า และมีโอกาสนำตลาดต่อเนื่อง 

สำหรับหุ้นเด่นเน้นกลุ่มได้ประโยชน์ฝั่งต้น-กลางน้ำก่อน ได้แก่ WHA, GULF, INSET, ADVANC, TRUE, DELTA, BE8, BBIK ยังลงทุนทั้งระยะกลาง-ยาว รวมถึงเก็งกำไรระยะสั้นรับธีมใหญ่ของโลกกำลังมา แม้ราคาหุ้นปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก ได้แก่ ADVANC , DELTA, BE8, BBIK    

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18 ก.ย.) ยังเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1,430 -1,445 จุด นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขาย และบางส่วนอาจขายเพื่อลดความเสี่ยงรอความชัดเจน ประชุมเฟดในคืนวานนี้ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะพักเงินในหุ้นปลอดภัย (defensive) ที่ปัจจัยพื้นฐานดีในกลุ่มสื่อสารและโรงพยาบาล

นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า มองราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ประเภทที่ปรึกษาด้านไอที (Tech consult) ฟื้นตัวขึ้น จากแนวโน้มของกำไรของกลุ่มที่คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในครึ่งปีแรก และมองว่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2567 จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นหนุนจากทั้งโครงการของภาครัฐและเอกชน

อย่างไรก็ตาม ในเชิงกลยุทธ์เรามองว่า หุ้น BBIK มีความน่าสนใจ จากแนวโน้มของกำไรที่คาดฟื้นตัวขึ้น หลังบริษัทรายงาน backlog ในไตรมาส 2 ปี 2567 สูงเป็นประวัติการณ์และมีแนวโน้มที่เร่งตัวขึ้นต่อ

ขณะที่ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า หุ้น AMATA และ หุ้น WHA มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ โดยประเมินว่า หุ้น WHA มีโอกาสคว้างานมากกว่าหุ้น AMATA เนื่องจากฐานข้อมูลของ WHA เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมในเศรษฐกิจใหม่ (New  Economy) ประกอบกับ WHA มีการพัฒนาบริษัทให้เป็นเทคคอมพานี พร้อมมองว่าหุ้นที่จะได้ประโยชน์ในอนาคตเป็นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่ อย่าง ADVANC, TRUE เพราะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องอาศัยโครงข่ายพื้นฐาน เช่น เส้นใยนำแก้วนำแสง ซึ่งมีโอกาสที่  Microsoft จะเลือกใช้บริการดังกล่าว