จองซื้อ‘วายุภักษ์หนึ่ง’ ยอดล้นเฉียด2แสนล.
“กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ชูผลตอบรับรอบแรกดีมานด์ล้น “ยอดจองซื้อ” มากกว่ามูลค่าที่ต้องการระดมทุนสูงสุดที่ 1.5 แสนล้าน แตะที่ 1.9 แสนล้าน ล่าสุด ประกาศจำนวนหน่วยลงทุนเสนอขายสุดท้ายที่ 15,000 ล้านหน่วย “บล.อินโนเวสท์ เอกซ์” คาดยอดจองเต็มจำนวนดัน 3 แสนล้าน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะ บริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่งหรือ VAYU1 เปิดเผยว่า การเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เมื่อ 16-20 ก.ย. 2567 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนรายย่อย และได้รับความสนใจอย่างมากจากการสำรวจความต้องการจองซื้อของผู้ลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) เมื่อ 18-20 ก.ย.2567 มีมูลค่าความต้องการรวมมากกว่ามูลค่าที่ต้องการระดมทุนสูงสุดที่ 150,000 ล้านบาท โดยมียอดจองซื้อเข้ามาอยู่ที่ 190,000 ล้านบาท
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกองทุนฯ การกำหนดกลไกคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทน รวมทั้งกลไกในการบริหารความเสี่ยงของกองทุนฯ ซึ่งส่งผลให้กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นทางเลือกการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และล่าสุดจึงประกาศ จำนวนหน่วยลงทุนเสนอขายสุดท้ายที่ 15,000 ล้านหน่วย (ราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท)
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนรายย่อยที่จองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. ที่จัดสรรด้วยวิธี Small Lot First สามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่วันพุธที่ 25 ก.ย.2567 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ SETTRADE
ส่วนผู้ลงทุนสถาบันเริ่มจองซื้อวันที่ 25-27 ก.ย.2567 และคาดว่าหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนฯ จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ต.ค. 2567 โดยใช้ชื่อ VAYU1 ในการซื้อขายหลักทรัพย์
ซึ่งผู้ที่ต้องการลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทุกวันทำการ โดยราคาหน่วยลงทุนในตลาดรองจะเป็นไปตามกลไกของราคาตลาด
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยพ้นวิกฤติแล้ว “เพียงแต่ว่าเราจะไปไกลได้แค่ไหน” รอปัจจัยใหม่มาผลักดัน ขณะที่ผลของมาตรการสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ใช้มาตรการอัปติ๊ก พบว่าธุรกรรมชอร์ตเชลลดลง ลดความผันผวนในตลาด
รวมทั้งการที่มีกองทุนวายุภักษ์ จะมีเม็ดเงินมารองรับ ในอีก 10 ปีข้างหน้า ช่วยลดดาวน์ไซด์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้นไทย ขณะนี้พบว่ามียอดจองซื้อกองทุนวายุภักษ์แล้วราว 2 แสนล้านบาท คาดว่ายอดจอดซื้อจะครบเต็มจำนวน 3 แสนล้านบาท
ส่งผลให้คาดว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า ประเมินเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 1,500 จุด ภายในสิ้น ไตรมาส 4 ปี 2567 และ 1,550 จุด ในปี 2568 หุ้นเด่น ได้แก่ BOMS CPALL GPSC HANA และ LHHOTEL
