เช็ก 10 หุ้นโรงไฟฟ้า อานิสงส์ กกพ.เดินหน้าประมูลโครงการพลังงานทดแทน เฟส 2
เช็ก 10 หุ้นโรงไฟฟ้า รับอานิสงส์ กกพ.เดินหน้าประมูลโครงการพลังงานทดแทน เฟส 2 ขนาด 2,180 เมกะวัตต์ "นักวิเคราะห์" เผย GULF - GUNKUL ลุ้นประมูลได้
"หุ้นโรงไฟฟ้า"หนึ่งในกลุ่มหุ้นยอดนิยมของนักลงทุน และในช่วงนี้ หุ้นโรงไฟฟ้าในกลุ่มโครงการพลังงานทดแทนกำลังถูกจับตาอย่างยิ่ง ถึงการอาจได้รับอานิสงส์จากประเด็น ราชกิจจานุเบกษาซึ่ง เป็นหนังสือข่าวสารรัฐบาลของประเทศไทย ได้ประกาศระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบ FiT ปี 2565-2573
โดยให้พิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ที่ผ่านเกณฑ์แต่ไม่ได้รับคัดเลือกในเฟสแรกเนื่องจัดหาครบตามเป้าหมายแล้ว โดยแบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลม 600 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 1,580 เมกะวัตต์ และล่าสุด ประกาศรับซื้อโครงการพลังงานทดแทน เฟส 2
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ในส่วนของพลังงานทดแทนถือว่า ช่วงที่ผ่านมาหุ้นหลายตัวปรับตัวลดลงมา และปัจจุบันเริ่มมีการกลับขึ้นมาในราคาที่นักลงทุนจับต้องได้
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทที่ได้ในการประมูลพลังงานทดแทนในรอบที่แล้วจะเป็น GULF และ GUNKUL รวมถึงรายที่เล็กลงมา หากเทียบกันแล้วสัดส่วนที่ได้ GULF ไม่ได้เยอะ หากเทียบกับ GUNKUL สัดส่วนที่ได้มาค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับขนาดของบริษัท
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการประมูลตรงนี้ ลำพังเฉพาะที่ประมูลได้ และจะเข้าสู่สัญญาการจ่ายไฟและการส่งมอบในช่วงปี 2570 เป็นต้นไป ทำให้หุ้น GUNKUL มีความน่าสนใจอยู่ และในรอบนี้ที่จะมีการเปิดประมูลเพิ่มมองว่า GUNKUL น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน การประมูลดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกให้กับหุ้นในกลุ่มพลังงานไฟฟ้าทดแทนตัวอื่น ๆ ด้วย
สำหรับหุ้นพลังงานทดแทนในตลาดหุ้นจะมี TGE CV ACE TPCH ETC ส่วน GPSC BGRIM ก็มีพลังงานทดแทน เมื่อเทียบกับทางธุรกิจอาจจะมีพลังงานทดแทนที่มีสเกลไม่ได้ใหญ่ มาก
ทั้งนี้ในหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต้องถือว่า เริ่มมาอยู่ในจุดที่มีความน่าสนใจ เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน ราคาที่ปรับตัวลงมา ด้วย P/E ลดลงมา ซึ่งหุ้นบางตัว P/E อยู่แถวบริเวณ 12-15 เท่า ซึ่งถือว่าไม่แพง เป็นระดับที่สามารถเข้าลงทุนได้ และจากการประมูลรอบใหม่จะมีโอกาสที่นักลงทุนเก็งกำไรได้ ส่วน P/E ที่สูงในระดับ 25-30 เท่า นักลงทุนอาจจะต้องดูดี ๆ ว่า สาเหตุที่ P/E สูงมีโครงการที่จะรับรู้ในอนาคตเพียงแต่กำไรอาจจะยังไม่เข้ามา หรือแท้จริงแล้วหุ้นตัวนั้นแพงเกินไป
ขณะเดียวกันนักลงทุนอาจจะต้องทำการบ้านเพิ่มเติมในส่วนของอายุของโรงไฟฟ้าที่เหลือด้วย เนื่องจากว่า ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นที่อยู่ในกลุ่มราคาปรับตัวลดลง 4 ปีที่ผ่านมา ที่เป็นกลุ่มโรงไฟ้ฟ้าที่เป็น Adder ไม่ว่าจะเป็น SCPG TSG หรือ EA เป็นต้น
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เป็นโอกาสที่ดีสำหรับโรงไฟฟ้าที่จะเข้าไปประมูล แต่ทว่ายังคงต้องมารอดูว่า จะได้รับงานหรือไม่ ยังคงต้องติดตาม ซึ่งในบรรดาหุ้นโรงไฟฟ้ายังคงมีมุมมองเป็นบวกกับ PDP ฉบับใหม่ ทั้งนี้ หุ้นที่มีภาษีน่าจะได้ยังคงมีมุมมองเป็นหุ้น GULF ส่วนหุ้น GUNKUL หรือ BGRIM ก็มีลุ้นที่จะมีสิทธิ์ได้เช่นกัน
"ยังคงคาดว่า หุ้นขนาดใหญ่จะสามารถได้งานประมูลครั้งนี้ อย่าง GULF GPSC BGRIM ที่พอจะมีลุ้น"
อย่างไรก็ดี หุ้นโรงไฟฟ้ายังคงได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงการประมูลโครงการใหม่ ๆ ยังคงมีอัพไซด์ ที่จะเป็นสตอรี่ช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยหุ้น BGRIM กับ GPSC ยังคงแนะนำเป็นถือ ส่วน GULF มีความน่าสนใจให้ซื้อ แต่ด้วยราคานั้นอาจจะขึ้นมาค่อนข้างแรง ที่สะท้อนผลประโยชน์ในการควบรวมกับ INTUCH หากนักลงทุนมีหุ้นดังกล่าวแล้วแนะให้ถือไปจนถึงสวิตซ์หุ้นเป็นตัวใหม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีหุ้น EGCO ที่ยังพอมีอัพไซด์อยู่บ้าง หากเทียบกับหุ้นโรงไฟฟ้าตัวอื่น ๆ ซึ่งไม่มีอัพไซด์เหลือแล้ว
ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ดังนี้ (ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ 25 ก.ย.2567)
1.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) GULF
- มาร์เก็ตแคป 674,656 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +2.68%
- ผลตอบแทนราคา YTD +29.21%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 57.25 บาท
2.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) GPSC
- มาร์เก็ตแคป 130,412 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน -%
- ผลตอบแทนราคา YTD -4.64%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 47.25 บาท
3.บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) EGCO
- มาร์เก็ตแคป 64,755 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน -%
- ผลตอบแทนราคา YTD -3.91%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 123.00 บาท
4.บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) BGRIM
- มาร์เก็ตแคป 59,959 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน -%
- ผลตอบแทนราคา YTD -15.60%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 24.00 บาท
5.บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) GUNKUL
- มาร์เก็ตแคป 25,937 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +2.82%
- ผลตอบแทนราคา YTD +4.29%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 2.86 บาท
6.บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) ACE
- มาร์เก็ตแคป 14,246 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน -0.71%
- ผลตอบแทนราคา YTD -8.50%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 1.41 บาท
7.บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) TGE
- มาร์เก็ตแคป 6,336 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +9.92%
- ผลตอบแทนราคา YTD -0.69%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 2.90 บาท
8.บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ETC
- มาร์เก็ตแคป 4,838 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน -6.09%
- ผลตอบแทนราคา YTD -20.59%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 2.38 บาท
9.บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) TPCH
- มาร์เก็ตแคป 2,568 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +4.07%
- ผลตอบแทนราคา YTD +6.67%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 6.40 บาท
10.บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) CV
- มาร์เก็ตแคป 564 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +3.13%
- ผลตอบแทนราคา YTD -35.29%
- ราคา ณ 25 ก.ย.2567 ที่ 0.33 บาท