MFC บวกพุ่ง 13.92% รับผู้ถือใหญ่ระดับโลก Chartered Group แรงหนุนกองทุนวายุภักษ์
MFC บวกพุ่ง 13.92% ราคาเพิ่มขึ้น 3.30% หรือระดับราคาอยู่ที่ 27.00 บาท รับผู้ถือใหญ่รายใหม่ระดับโลก Chartered Group บวกแรงหนุนกองทุนวายุภักษ์
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 26 ก.ย.2567 เวลา 10.06 น.หุ้น MFC หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) บวก 13.92% ราคาเพิ่มขึ้น 3.30% หรือระดับราคาอยู่ที่ 27.00 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันมีเทรนด์ของกองทุนวายุภักษ์ที่ได้รับกระแสตอบรับดี ส่งผลให้ธุรกิจกองทุนรวมน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และวอลุ่มตลาดหุ้นไทยมีการปรับขึ้นมาเรื่อย ๆ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 มีขายหุ้นสามัญทั้งหมดใน MFC จำนวน 31,357,850 หุ้น หรือคือเป็น 24.96% ให้กับ OPUS-CHARTERED ISSUANCES S.A. ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติ
"คันทรี่ กรุ๊ป ในฐานะคนที่ขายไม่รู้เหตุผลในการขาย แต่ปัจจุบันธุรกิจบลจ.ค่อนข้างดี คึกคัก มีทั้งเทรนด์วายุภักษ์ รวมถึงวอลุ่มตลาดก็ขึ้นมา แต่การขายให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ และธุรกิจอยู่ในเทรนด์ที่ดี และผู้ถือหุ้นใหม่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีการปรับโครงสร้างใหม่อย่างไร ในเชิงจิตวิทยาเป็นเชิงบวก เนื่องจากแนวโน้มของอุตสาหกรรมดีขึ้น ทั้งนี้ ราคาหุ้น MFC มีการปรับขึ้น แนะนำเทรดดิ้ง"
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานคณะกรรมการ บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 ถึงการเข้าซื้อหุ้นโดย Chartered Group (โดย Opus-Chartered Issuances S.A.) จำนวน 31,357,850 หุ้น หรือ คิดเป็นสัดส่วน 24.96 % ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ จาก บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH)โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา
สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมทั้งสองราย ได้แก่ กระทรวงการคลัง และธนาคารออมสิน ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเดิมที่ 15.92 % และ 24.94 % ตามลำดับ
ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใหม่ Chartered Groupเป็นบริษัท Private Equity ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุน การบริหารและดำเนินธุรกิจ การเพิ่มศักยภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน อสังหาริมทรัพย์และไลฟ์สไตล์ รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 แสนล้านบาท) ใน 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เยอรมนี ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อิสราเอล ลักเซมเบิร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีประชาชนให้ความสนใจด้านการเงินและการลงทุนมากขึ้น และเปิดกว้างในผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทระดับโลกแห่งนี้เข้ามาลงทุน
นอกจากนี้ MFC เปิดเผยว่าการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ของChartered Group จะเป็นการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย และมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เช่น กระทรวงการคลังและธนาคารออมสิน เพื่อมุ่งสู่การเป็นพันธมิตรด้านการลงทุนอันดับหนึ่ง ผ่านแนวคิดสำคัญ 4 ประการ ได้แก่
1.การนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงิน บริการการเงิน และพันธมิตรนักลงทุนที่ดีที่สุดสู่ตลาดไทย
2.การร่วมมือกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อสร้างนวัตกรรมทางการเงินที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่สังคม
3.สร้างเสริมพันธมิตรด้านการบริหารทรัพย์สินส่วนบุคคลในระดับโลก
4.การส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้แก่นักลงทุนและประชาชนโดยทั่วไปให้เกิดความยั่งยืนในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นนิมิตรหมายและโอกาสอันดีในการสร้างเสริมให้ MFC มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และจะทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาการส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจและให้การสนับสนุนแก่บริษัทฯ มาโดยตลอด
ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมถึงเสริมสร้างความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหารและพนักงานทุกฝ่ายในองค์กรจะนำพาให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลดีต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกราย
ทั้งนี้ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 บริษัทได้ดำเนินการขายหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) จำนวน 31,357,850 หุ้น หรือคือเป็น 24.96% ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ MFC ให้แก่ OPUS-CHARTERED ISSUANCES S.A. (เป็นบริษัทสัญชาติลักเซมเบิร์ก) ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์และไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท