เปิดโผ 10 หุ้น SETHD ปันผลสูง ราคาวิ่งแรงสุดรอบ 9 เดือน

เปิดโผ 10 หุ้น SETHD ปันผลสูง ราคาวิ่งแรงสุดรอบ 9 เดือน

เปิดโผ 10 หุ้นSETHD ปันผลสูง ราคาวิ่งแรงสุดรอบ 9 เดือน หุ้น PRM ราคา 9 เดือนพุ่งนำมากสุด +57.01% ด้านเงินปันผล 9 เดือน 4.53%

ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าเข้าสู่ 3 เดือนสุดท้ายของปี 2567 ซึ่งยังมีปัจจัยบวกหลายด้านไม่ว่าจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวบ้านเราที่จะมีเทศกาลหยุดยาวของจีน หรือ Golden Week เนื่องในวันชาติจีน รวมถึงกองทุนรวมวายุภักษ์ ที่จะเริ่มเปิดให้ผู้จัดการกองทุนซื้อขายหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้

ขณะเดียวกัน หุ้นปันผลสูงในกลุ่ม SETHD ก็ยังมีความน่าสนใจ เพราะเป็นหุ้นปันผลสูง 30 หลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคัดเลือกมาให้แล้ว และในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา มีหลายหลักทรัพย์ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปในระดับที่น่าพอใจ โดย "กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจมีอยู่ด้วยกัน 10 หลักทรัพย์ ที่ราคาบวกเพิ่มขึ้นมาแรงในรอบ 9 เดือน 

1.บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) PRM

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +57.01%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 4.53%

 2.บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) INTUCH

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +29.72%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 3.42%

3.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +29.72%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 3.42%

4.บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) BAM

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +16.56%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 4.00%

5.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) TTB

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +16.17%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 5.40%

6.บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) TASCO

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +13.41%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 6.72%

7.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +11.96%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 4.21%

8.บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) SPALI

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +10.75%
  • เงินปันผล 9 เดือน 7.04%

9.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +10.74%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 4.35%

10.บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) SIRI

  • ผลตอบแทนราคา 9 เดือน +8.47%
  • อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9 เดือน 10.01%

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้นในกลุ่ม SETHD ถือว่ามีผลตอบแทนที่ดี เมื่อเทียบกับดัชนีอื่น ๆ โดยตั้งแต่ต้นปีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณ 7% ซึ่งถ้าคิดเป็นผลตอบแทนทั้งปี 2567 จาก Analyze พบว่า จะอยู่ที่ปะมาณ 16.75% ซึ่งถือว่าดีกว่า SET ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% ขณะที่ Analyze Return อยู่ที่ 7.73% และ SET50 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.64% ขณะที่ Analyze Return อยู่ที่ 10.66% ซึ่งก็จะเห็นว่า SETHD ช่วงที่ผ่านมา เด้งกลับขึ้นมาได้ดีกว่า 

ทั้งนี้ ส่งผลให้ระดับเงินปันผลเปลี่ยนแปลงหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนดีขึ้นด้วย ถึงแม้ว่า จะปรับเพิ่มขึ้นมา 7% แต่หากไปดูช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ผลตอบแทนเงินปันผลของ SETHD อยู่ที่ประมาณ 4.6% เท่านั้น แต่ทว่ามาถึงปัจจุบันเขยิบมาอยู่ที่ 5% ซึ่งสูงขึ้น 

"สังเกตได้ว่า ถึงแม้ว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นมา 7% แต่ว่า การที่ผลตอบแทนเงินปันผลสูงขึ้น แสดงว่า ช่วงที่ผ่านมาการปรับประมาณการกำไรในหุ้นกลุ่ม SETHD มันดีขึ้นเร็วกว่า จึงทำให้ผลตอบแทนเงินปันผลกลายเป็นสูงขึ้นได้ ถึงแม้หุ้นว่าหุ้นจะขึ้นมาแล้ว 7%"

อย่างไรก็ดี หุ้นในกลุ่ม SETHD ยังคงมีความน่าสนใจเข้าไปลงทุน ค่อนข้างดี เมื่อเทียบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนเงินปันผล SETHD อยู่แถว ๆ 3.6-4.6% และเคยขึ้นไปเกิน 5% ในช่วงโควิดที่ตลาดหุ้นไทยตกลงมาแรง ๆ ดังนั้นจะเห็นว่า ภาพของผลตอบแทนเงินปันผลเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

โดยนักลงทุนสามารถเข้าไปทยอยสะสมการลงทุนได้ เนื่องจากว่า ในเดือนตุลาคม 2567 ภาพการลงทุนหุ้นไทยที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างเร็ว รวมถึงผลตอบแทนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีกำไรในตลาดหุ้นไทยประมาณ 20-30% ซึ่งเป็นระดับที่มีความเสี่ยงที่อาจจะมีการขายทำกำไรระยะสั้น 

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/67 ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนอาจจะไม่ได้ดีขึ้นเร็วมากนัก เช่น กลุ่มการเงิน ธนาคารและไฟแนนซ์ ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้วิ่งขึ้นแรง แต่เป็นการค่อย ๆ ดีขึ้น รวมถึงผลประกอบการในกลุ่มพลังงานที่อาจจะยังไม่ดีมากนัก เพราะมีการขาดทุนจากสต็อกราคาน้ำมันลดลงในไตรมาส 3 เพราะฉะนั้นภาพหลาย ๆ ปัจจัยส่งผลให้มีโอกาสการชะลอตัว หรือแรงทำกำไรของผลประกอบการ แต่เมื่อผ่านพ้นไตรมาส 3/67 ไปแล้ว ภาพไตรมาส 4/67 -1/68 ค่อนข้างแข็งแกร่งไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยฤดูกาล หรือแรงหนุนจากปัจจัยภาครัฐที่บวกต่อภาคของการบริโภค 

"เฉพาะฉะนั้นการอ่อนตัวในช่วงเดือนต.ค. อาจจะเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าทยอยสะสม โดยกรอบการเคลื่อนไหวมองไว้ที่ 1400 -1460 จุด" 

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้ข้อมูลเพิ่มว่า หุ้นปันผลยังคงมีความน่าสนใจอยู่ ซึ่งบริบทของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังกลับตัว ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นมาตลอด ซึ่งเวลาที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นหุ้นอาจจะไม่ได้รับความสนใจสักเท่าไร เพราะนักลงทุนมักจะนำเงินไปลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการมาของอัตราดอกเบี้ยสูง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ปรับขึ้น 

ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง นักลงทุนจะเริ่มมองหาหุ้นที่ให้ปันผลสูงขึ้น เพราะสามารถให้แคชโฟลด์กับนักลงทุนได้ค่อนข้างดี และด้วยในสภาวะเช่นนี้หุ้นที่ปันผลสูงมีความน่าสนใจ 

"การที่อัตราดอกเบี้ยปรับลง นั่นสะท้อนว่า เศรษฐกิจอยู่ในจุดที่ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อน เพราะฉะนั้นดอกเบี้ยปรับลง คนจะมูฟมาหาหุ้นดีเฟนซีฟ ปันผลสูง เช่น กลุ่มสื่อสารจะได้รับความนิยมมากในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง เพราะว่ากลุ่มสื่อสารไม่ได้ผันผวนตามเศรษฐกิจ"