เปิดโผ 5 หุ้นเด่น เดือน ต.ค.เน้นปัจจัยบวกเฉพาะตัว หลังตลาดพักฐาน

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า พอร์ตหุ้นแนะนำ ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 9.0% และแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้น โดยรวมดัชนี SET วิ่งขึ้นมาแรงในเดือนตุลาคมจากปัจจัยบวกในประเทศ ซึ่งได้แก่ ความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในเดือนต่อ ๆ ไป และการออกกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักลงทุนชาวไทย 

สำหรับปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคในต่างประเทศ ธนาคารกลางของสหรัฐประกาศลดดอกเบี้ย Fed Fund Rate ลง 50bps และ ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในขาลงในอีกสองสามปีข้างหน้า Fed ยังได้ทำการประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ 

โดยคาดว่า GDP ในปีต่อ ๆ ไปจะขยายตัว 2%ต่อปี สอดคล้องกับวาทกรรม soft-landing นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนกันยายน รัฐบาลจีนยังประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติ COVID-19 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจจีน

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นเดือนตุลาคม เราคาดว่าโมเมนตัมการขึ้นของดัชนี SET จะชะลอตัวลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยใน ประการแรก เราคิดว่านักลงทุนน่าจะตอบรับปัจจัยบวกที่สำคัญ ๆ อย่างเช่น มาตรการแจกเงิน 1.45 แสนล้านบาทให้กับผู้มีรายได้น้อย และ ประชาชนกลุ่มเปราะบาง, การออกกองทุนวายุภักษ์ และ การที่ Fed ลดดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญไปเรียบร้อยแล้ว 

ประการที่สอง นักลงทุนน่าจะรอดูสถานการณ์ โดยติดตามโมเมนตัมเศรษฐกิจสหรัฐ และ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมาถึง แต่ในทางกลับกัน เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะไม่ลดลงมากนัก เพราะยังมีอีกสองสามปัจจัยที่จะมาช่วยจำกัดความเสี่ยงด้าน downside อย่างเช่น การเข้ามาของกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งตั้งเป้าจะเข้ามาสะสม

หุ้นไทยในช่วงที่ตลาดย่อตัวลง และ แนวโน้มที่สดใสขึ้นของกระแสเงินลงทุนในหุ้นจากต่างประเทศจากการที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มจะแข็งค่าต่อเนื่องตลอด 4Q67

โดยหุ้นแนะนำ ต.ค. ประกอบด้วย CPAXTT, BH, CBG, SHR และ TRUE เนื่องจากมองว่าตลาดจะพักฐาน ในขณะที่ยังขาดปัจจัยกระตุ้นหุ้นกลุ่มหลัก อย่างเช่น พลังงาน(ตลาดน้ำมันอ่อนแอ) และ ธนาคาร (ความกังวลเกี่ยวกับดอกเบี้ยขาลง) นักลงทุนจึงควรเน้นคัดหุ้นแบบ bottom-up โดยอิงจากธีมดังต่อไปนี้

• CPAXTT ผู้ประกอบการค้าส่งที่น่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงิน 1.40-1.50 แสนล้านบาทในช่วงปลายเดือนนี้ โดยนักวิเคราะห์ของ KGI คาดว่ากำไรของ CPAXT จะเพิ่มขึ้น 31% YoY ในปี 2567F และ 18% YoY ในปี 2568F
• BH คาดว่ากำไรของบริษัทจะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q67 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนในประเทศไทย ผู้ป่วยต่างชาติกลับมาใช้บริการ และคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ซึ่งจะทำให้รายได้ และ margins เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
• CBG หุ้นอีกตัวที่จะได้อานิสงส์จากการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้น เรายังคาดว่ายอดขายใน 3Q67F จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากส่วนแบ่งตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น และ ii) มีรายได้จากการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเพราะมีการขยายช่องทางการจำหน่ายเบียร์คาราบาวทั้งแบบ modern และ traditional trade
• SHR เป็นหุ้นกลุ่มโรงแรมที่อ่อนไหวกับการลดดอกเบี้ยมากที่สุด โดยคาดว่าดอกเบี้ยที่ลดลงทุก ๆ 25 bps จะทำให้กำไรของบริษัทในปี 2568 เพิ่มขึ้น 12% นอกจากนี้ ช่วง peak ตามฤดูกาลของการท่องเที่ยวในประเทศไทยและมัลดีฟส์กำลังจะมาถึงในไตรมาสแรกของปีหน้า
• TRUE คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% QoQ จากต้นทุนที่ลดลง ARPUs ที่เพิ่มขึ้น และ อานิสงส์จาก synergy โดยคาดว่า EBITDA margins จะทรงตัวอยู่ที่ 47.7% ทั้งนี้เมื่อมองต่อไปข้างหน้า คาดว่า 4Q67Fจะเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการดีที่สุดในรอบปีนี้