เช็กที่นี่! 13 หุ้นท่องเที่ยวเข้าไฮซีซั่น รัฐหนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
13 หุ้นท่องเที่ยวเข้าไฮซีซั่น บวกกับเป็นช่วง Golden week วันที่ 1-7 ต.ค. 2567 และรัฐหนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หุ้น BA กลุ่มการบิน
ผลตอบแทนราคา YTD บวกมากสุด 59.24% "โบรก" เผยยังน่าสนใจ หุ้น ERW -SPA ราคายังอยู่โซนล่าง
ไตรมาส 4 ของทุกปี หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวถือเป็นช่วง High season ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามากันเป็นจำนวนมาก รวมกับมีปัจจัยบวกหลายด้านเข้ามาหนุนนำส่งเสริมให้กลายเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเตรียมขับเคลื่อนนโยบายด้านการท่องเที่ยวให้เป็น "วาระแห่งชาติ" ในปี 2568 ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเมืองไทยช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมไปถึงปมช่วงเวลา Golden week ที่เริ่มวันที่ 1-7 ต.ค. นี้ ซึ่งจะช่วยให้มีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น
ไม่เท่านั้นยังมีปัจจัยบวกจากกรณี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีแนวคิดที่จะนำโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" กลับมาเป็นหนึ่งในมาตรการส่งเสริมตลาดไทยเที่ยวไทย เพราะเป็นแคมเปญที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ ฉะนั้นแล้วปัจจัยบวกเหล่านี้จะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม และสนามบิน
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมีความน่าสนใจ โดยภาพรวมในช่วง Golden week ในทุก ๆ ปี นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ บวกเทรนด์นักท่องเที่ยวจีนต้ังแต่ต้นปี 2567 เร่งตัวเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ และล่าสุดเศรษฐกิจจีนพยายามเริ่มที่จะฟื้นตัว โดยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนออกมาเยอะมาก ๆ จึงคาดว่า จีนน่าจะค่อย ๆ ปลดล็อกมากขึ้น
ทั้งนี้ ในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวยังน่าสนใจ และราคาหลายตัวยังไม่ได้แรลลี่ไปไกล ส่วนตัวหุ้นที่มีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นเป็นกลุ่มสายการบิน รอบนี้ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างเยอะ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมยังมีการเก็งกำไรไม่ได้เยอะมาก นักลงทุนยังสามารถเข้าไปลงทุนได้
โดยสัญญาณไตรมาส 4/67 เร่งตัวในช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้สัญญาณนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นมา รวมถึงมาตรการภาครัฐจะออกโปรแกรมไทยเที่ยวไทยภายในประเทศให้มากขึ้น จึงทำให้เทรนด์ท่องเที่ยวเป็นหัวใจหลัก ส่งผลให้ธีมนี้ยังคงเข้าลงทุนได้
"หุ้นฝั่งโรงแรมที่น่าสนใจ ราคาขยับไปไม่เยอะ และยังคงแลกการ์ดอยู่คือหุ้น ERW ถือว่ามีสัดส่วนโรงแรมในตัวเมืองกรุงเทพฯ ถือเป็นอันดับ ๆ หากเทียบกับหุ้นที่มีอยู่ในตลาด ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 4 บาทกว่า ส่วนใหญ่ตลาดให้ไว้ที่ 6 บาท โดยภาพรวมยังมีอัพไซด์ แต่ทว่ากำไรผลประกอบการระยะสั้นยังเพิ่งผ่านโลซีซั่นในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 อาจจะทรง ๆ และในไตรมาส 4 จะเร่งขึ้นมาได้"
ขณะที่หน้าหุ้นลิ้งค์กับภาคบริการที่นักท่องเที่ยวจีนชอบมา เช่นการนวด ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญหุ้น SPA ยังเป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ ผลประกอบการค่อน ๆ มีโมเมนตัมที่ดีขึ้น และน่าจะพีคได้ในช่วงปลายปี นอกจากนี้หุ้น SPA ได้มีการย้ายตลาดจาก MAI สวิซท์เข้ามา SET ทำให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เนื่องจากกองทุนรวมอาจจะลงทุนใน MAI ไม่ได้ ส่งผลให้เปิดกว้างได้กับ SPA มากขึ้น
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปลายปีนี้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวกำลังจะก้าวเข้าสู่ฤดูกาลของการท่องที่ยวหรือไฮซีซั่น ส่งผลให้กลุ่มนี้ยังมีความน่าสนใจอยู่
ขณะที่ Golden week ปีนี้อาจจะซาลงไปสักหน่อย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเน้นเที่ยวในประเทศมากกว่า จึงยังไม่ได้มีความคาดหวังมากับ Golden week ในครั้งนี้ เนื่องจากมีสัญญาณแผ่วมาก่อนหน้านี้ ซึ่งสัญญาณนักท่องเที่ยวจีนยังไม่ค่อยคึกคัก สาเหตุมากจากเศรษฐกิจจีนเองยังคงไม่ดี จึงเน้นการท่องเที่ยวในประเทศมากกว่า
ทั้งนี้ หากนักลงทุนจะซื้อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว สามารถซื้อและถือยาวไปจนถึงต้นปีหน้าได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจต้องเน้นการท่องเที่ยวในประเทศด้วย เช่น ERW ที่มีการคาดหวังว่า รัฐบาลจะมีการออกมาตรการเราเที่ยวด้วยกันในปีหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนได้ รวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินก็จะได้รับประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เช่น AAV
ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม และสายการบิน ทั้ง 12 หุ้น ส่วนใหญ่แล้วราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น (ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ 2 ต.ค.2567)
1.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA
- กลุ่มการบิน
- ผลตอบแทนราคา YTD +59.24%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +18.48%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +6.84%
- มาร์เก็ตแคป 52,500 ล้านบาท
2.บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV
- กลุ่มสายการบิน
- ผลตอบแทนราคา YTD +39.70%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +36.27%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +5.30%
- มาร์เก็ตแคป 35,723 ล้านบาท
3.บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD +32.95%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +9.52%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน -6.50%
- มาร์เก็ตแคป 9,775 ล้านบาท
4.บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD +14.46%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน -2.56%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +0.88%
- มาร์เก็ตแคป 1,822 ล้านบาท
5.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
- กลุ่มการบิน
- ผลตอบแทนราคา YTD +8.37%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +14.10%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +2.37%
- มาร์เก็ตแคป 924,999 ล้านบาท
6.บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD +7.87%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +9.09%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +0.52%
- มาร์เก็ตแคป 122,899 ล้านบาท
7.บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) SHR
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD +7.08%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +17.48%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +3.42%
- มาร์เก็ตแคป 8,697 ล้านบาท
8.บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD -0.85%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน -1.68%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +2.63%
- มาร์เก็ตแคป 165,847 ล้านบาท
9.บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD -4.96%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +7.30%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +1.38%
- มาร์เก็ตแคป 9,426 ล้านบาท
10.บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD -6.29%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +3.14%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +3.80%
- มาร์เก็ตแคป 55,350 ล้านบาท
11.บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW
- กลุ่มโรงแรม
- ผลตอบแทนราคา YTD -14.67%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน +1.36%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +3.23%
- มาร์เก็ตแคป 21,893 ล้านบาท
12.บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY
- กลุ่มการบิน
- ผลตอบแทนราคา YTD -16.19%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน -10.93%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน -5.58%
- มาร์เก็ตแคป 15,741 ล้านบาท
13.บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS
- กลุ่มการบิน
- ผลตอบแทนราคา YTD -27.62%
- ผลตอบแทนราคา 60 วัน -3.89%
- ผลตอบแทนราคา 5 วัน +8.13%
- มาร์เก็ตแคป 11,029 ล้านบาท