"หุ้นไทย" บวกสวนตลาดเอเชีย ปิดช่วงเช้า 1,455 จุด

"หุ้นไทย" บวกสวนตลาดเอเชีย ปิดช่วงเช้า 1,455  จุด

“หุ้นไทยวันนี้” ปิดตลาดเช้านี้ (9 ต.ค. 67) เวลา 12.30น. ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,457.06 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.26 จุด หรือ เปลี่ยนแปลง 0.29 % มูลค่าการซื้อขาย 25,484.31 ล้านบาท

โดยระหว่างวันดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,460.33 จุด  และทำจุดต่ำสุด 1,453.54 จุด                 

5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ

  1. PTTEP           ปิดที่     133.00 บาท       ลดลง 1.48%
  2. CPALL           ปิดที่      66.00บาท          เพิ่มขึ้น 1.15 %
  3. BDMS            ปิดที่      30.25บาท         เพิ่มขึ้น 1.68%
  4. DELTA            ปิดที่    109.50บาท         เพิ่มขึ้น 1.86%
  5. KBANK          ปิดที่     153.00บาท         เพิ่มขึ้น 0.66 %  

 

     ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยปรับตัวสวนทางกับตลาดหุ้นเอเชียที่ปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (9 ต.ค.) นำโดยตลาดหุ้นจีนที่ดิ่งลงกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่รัฐบาลจีนไม่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

    คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) โดยเจิ้ง ซานเจี๋ย ประธาน NDRC ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการในหลายด้านเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ 

      รวมถึงเร่งการออกพันธบัตรชุดพิเศษให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคนักลงทุนกังวลว่า มาตรการล่าสุดของจีนอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นความเชื่อมั่นในการลงทุน นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่ถ้อยแถลงของ NDRC ไม่ได้บ่งชี้ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่เพิ่มเติม

       นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าแกว่งในแดนบวก ส่วนหนึ่งมาจากข่าวกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอลอาจทำข้อตกลงหยุดยิง ทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางคลี่คลายความตึงเครียดลง เป็นปัจจัยหนุน sentiment ตลาด โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงแรงเก็งกำไรกลุ่มแบงก์หนุนดัชนี

     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีจะปรับเพิ่มขึ้นมาได้ แต่ยังมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่มีแรงขายสลับออกมา หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง และตลาดยังรอรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนก.ย.ของสหรัฐคืนพรุ่งนี้ นักลงทุนบางส่วนจึงเลือกชะลอลงทุน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน