MASTER ย้ายเทรด SET 28 ต.ค. นี้ ปักธงสู่ผู้นำระดับภูมิภาค ขยายฐานนักลงทุน

MASTER ย้ายเทรด SET 28 ต.ค. นี้ ปักธงสู่ผู้นำระดับภูมิภาค ขยายฐานนักลงทุน

“มาสเตอร์” ฤกษ์ดีย้ายเข้ากระดานเทรด SET 28ต.ค.นี้ หวังขยายฐานนักลงทุนให้เพิ่มสูงขึ้น ดึงสถาบัน-กองทุน-ตปท.เข้าถือหุ้นสร้างความเชื่อมั่น พร้อมรุกตลาดต่างประเทศ ปักธงรพ.ศัลยกรรมความงามระดับภูมิภาค Regional Company วางเป้าหมายรายได้3ปี 67-69 โต ไม่ต่ำ20%

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศให้หุ้น MASTER ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SETเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มซื้อขายในกระดาน SET ตั้งแต่วันนี้ ( 28 ต.ค. 2567)  เป็นต้นไป 

บริษัท มีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายฐานนักลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งโร้ดโชว์ที่ผ่านมามีกองทุนต่างประเทศ อย่างสิงคโปร์และฮ่องกง ให้ความสนใจ ปัจจุบันมีสัดส่วนกองทุนต่างประเทศ 3% และกองทุนไทย สัดส่วน12% 

"รู้สึกยินดีที่ได้เห็นบริษัทเติบโตต่อเนื่อง โดยวันนี้ (28 ตุลาคม 2567) ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเราที่นำหุ้น MASTER ย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จตั้งแต่ที่บริษัท เข้ามาจดทะเบียนในตลาด mai ในช่วงระยะเวลาปีกว่าที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นภาพของการเติบโตทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ ด้วยแผนกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจ ทั้งOrganic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ที่เป็นส่วนเข้ามาช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตลาดและบริษัทมีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยังยืนคู่ตลาดหุ้นไทย"

นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับปีนี้บริษัทวางเป้าหมาย รายได้เติบโต 20%จากปีก่อน และ3ปี (ปี2567-2569 ) ยังคงเป้าหมายเติบโตรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 20%   และในช่วงไตรมาส4 ปีนี้ต่อเนื่องในปีหน้า ยังคงมีโอกาสทำดีล M&P หลายดีล จะทยอยประกาศความชัดเจนต่อไป

ทางด้านเงินลงทุนในระยะข้าวหน้า ปัจจุบันยังคงมีเงินจากการIPOอยู่ราว300 ล้านบาท และหากมีการลงทุนที่เป็นดีลใหญ่ จะพิจารณาวงเงินกู้จากสถาบันการเงินก่อ และจะมีการทำเรตติ้งควบคู่กับการออกหุ้นกู้ในระยะถัดไป 

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ กล่าวว่า บริษัทวางแผนที่จะเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงได้ในฐานะ Regional Company โดยการย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น หลังมองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ

บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 ที่การเติบโตของหัตถการยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สำหรับลูกค้าในประเทศโดยเฉพาะ สัดส่วนลูกค้าภาคเหนือ 15% ของทั้งหมด ที่ได้รับผลก็ระทบน้ำท่วมไตรมาส3/2567 แต่สถานการณ์คลี่คลายได้เร็วและลูกค้าได้เลื่อนการทำหัตถการมาเป็นในช่วงไตรมาส 4/2567 แทน  

ประกอบกับเห็นยอดการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าต่างชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอีก 10-15% สอดคล้องกับการบริหารจัดการในด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และกลับไปยังระดับเดิม เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการเติบโตของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น 

นางสาวลภัสรดา คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2567เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเริ่มเข้าสู่ช่วง High season จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจาก อินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว 

วางเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างประเทศอยู่ที่ 25-30% ในปีนี้และปี2568 อยู่ที่ 40% จากไตรมาส3/2567 มีสัดส่วน 25.85% และปีก่อนมีสัดส่วน 22% ผ่านการขยายตลาด และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับภูมิภาค 

โดยเน้นเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic  ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) จากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเป็นกิจการระดับแนวหน้าในแต่ละภูมิภาค โดยใช้จุดแข็งทางด้านระบบและการจัดการ ผนึกกำลังสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกัน ภายใต้กลยุทธ์ Cross Boder-Cross Selling และ Cross Synergy ถูกออกแบบให้เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวและรองรับการเติบโตของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้คาดว่าในไตรมาส 2/2568 การจัดตั้งโรงพยาบาลโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามในอินโดนีเซียน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งตลาดในอินโดนีเซียมีการเติบโตสูงมาก 

“เชื่อมั่นว่า การเติบโตอย่างมั่นคง ต้องมาพร้อมการพัฒนาและปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของตลาด การใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ และการรักษาคุณภาพบริการที่เยี่ยมยอด จะทำให้เราเติบโตด้วยกันอย่างยั่งยืน“