BGRIM คาดกำไร Q3/67 ผลงานโตเด่น สูงสุดในรอบ 13 ไตรมาส

BGRIM คาดกำไร Q3/67 ผลงานโตเด่น สูงสุดในรอบ 13 ไตรมาส

BGRIM คาดกำไร Q3/67 ผลงานโตเด่น ที่ 723 ล้านบาท เติบโต 21% QoQ และ 19% YoY สูงสุดในรอบ 13 ไตรมาส ส่วนปีหน้าคาดกำไรปกติที่ 2.061 ล้านบาท เติบโต 14% YoY หลังได้แรงหนุนต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเกาหลี

ณัชพล แพรสีเจริญ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดกำไรปกติ 3Q67 ที่ 723 ล้านบาท เติบโต 21% QoQ และ 19% YoY ทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 13ไตรมาสและดีกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้าว่าจะลดลงทั้ง QoQ และ YoY  

โดยคาดกำไรปกติสามารถเติบโตได้ QoQ แม้ปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมทรงตัว QoQ และราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นเป็น 336 บาท/MMBtu +10% QoQ, +5% YoY เพราะได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ค่าก่อสร้าง จากโครงการในต่างประเทศราว 200 ล้านบาทและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่คาดเพิ่มขึ้นเป็น 230ล้านบาท +654% QoQ พลิกจากส่วนแบ่งขาดทุน YoY หลังค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงปลาย 3Q67 ขณะที่ YoY คาดกำไรปกติเติบโตได้จากปริมาณขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ที่เติบโดขึ้น 13% จากการ COD โครงการใหม่และการรับรู้รายใต้ค่าก่อสร้างของโครงการในต่างประเทศ หากกำไรปกติ 3Q67 ออกมาใกล้เคียงคาด กำไรปกติ 9M67 จะคิดเป็นสัดส่วน 101% ของกำไรทั้งปี ส่งผลให้ประมาณการปี 2567 ของเรามี Upside อีกราว 20-25%

ขณะที่ เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 4Q67 ที่ระดับ 400-450 ล้านบาท ลดลง QoQ จากฐานที่สูงตามปัจจัยฤดูกาล จำนวนวันหยุดที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมลดลง และคาดไม่มีการรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโครงการเหมือนใน 3Q67 

อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติจะสามารถเติบโต YoY ได้ต่อเนื่องตามอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มพื้นตัวหลังรัฐบาลไม่มีการตรึงค่าค่าไฟฟ้าไว้ที่ระดับต่ำเหมือนปีก่อน ในช่วง 4Q66 เป็นช่วงที่รัฐบาลมีการตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ระดับ 3.99 บาท/หน่วย และการเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้า IU ใหม่เพิ่มเติมอีกราว 10-15MW

อย่างไรก็ดี ปี 2568 คาดกำไรปกติที่ระดับ 2.061 ล้านบาท เติบโต 14% YoY หลังได้แรงหนุนจาก 

1) แนวโน้มต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงต่อเนื่องและแนวโน้มการคงค่าไฟฟ้าไว้ที่ระดับ 4.00-4.18 บาท/หน่วย จะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า SPP ฟื้นตัวได้ 
2) การเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินเริ่มลลงหลังการ Rollover หุ้นกู้และ 
3) การเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเกาหลี (Nakwol 1) ที่มีกำหนดทยอย COD ในช่วง 2H68 ขนาด 179MWWWe 

และหากมองไปปี 2569 คาดกำไรปกติที่ 2,280 ล้านบาท เติบโต 11% YoY จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาโครงการลม Nakwol 1 แบบเต็มปีและการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการลม Nawol 2 ขนาด 184MWe ที่มีกำหนดทยอย COD ในช่วง 2H69

โดยคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ที่ 30.50 บาท/หุ้น มี Upside 36.8% โดยเรามองว่า BGRIM มีโอกาสกลับมาเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในช่วง 12 เดือนข้างหน้าหลังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและอยู่ระหว่างการฟื้นตัวและธุรกิจในต่างประเทศที่เข้าสู่รอบการเติบโตรอบใหม่ รวมถึงการเข้าสู่วัฏจักรของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาในไทย หนุนความต้องการใช้ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรม คงคำแนะนำแนะนำ "ซื้อ"