VGI กำไร Q2 ปี67/68 ที่ 78 ล้านรายได้โต-ตุนเงินสดหมื่นล้าน
VGI ทำกำไร Q2 ปี67/68 ที่ 78 ล้าน จากรายได้เติบโตทุกธุรกิจและรับรู้รายได้ธุรกิจลงทุน ROCTEC -JMART พร้อมตุนเงินสดในมือ 15,399.4 ล้านบาท พร้อมลุยธนาคารไร้สาขา
บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI รายงาน ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี2567/68 สิ้นสุด 30 กันยายน 2567 ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมอยู่ที่ 64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164.7 %YoY จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของการร่วมค้าและบริษัทร่วม อาทิ ROCTEC และบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จากที่กล่าวมาทั้งหมด บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิที่ 78 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิ 5.8 %
ไตรมาส 2 ปี 2567/68 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการและการขายอยู่ที่ 1,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.7 % YoY โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นสาเหตุจากการเติบโตของธุรกิจของบริษัทฯ ทุกธุรกิจ คือ ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล และธุรกิจการจัดจำหน่าย ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ที่ 45.1 % 30.8 % และ 24.1 % ของรายได้จากการให้บริการและการขายตามลำดับ
ธุรกิจสื่อโฆษณามีรายได้อยู่ที่ 605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.4 % YoY จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสื่อโฆษณาทุกประเภท โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน โดยมีอัตราการใช้สื่ออยู่ที่ 52.1 % เพิ่มขึ้นจาก 43.8% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้จำนวน 413 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5 % YoY โดยมีสาเหตุหลักจาก RCash มีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น ตามการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น โดย ณ กันยายน 2567 RCash มียอดปล่อยสินเชื่อ 926.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.6 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน
รวมถึง Rcare มีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยและรายได้ lead generation ที่เติบโตขึ้น ธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้อยู่ที่ 323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.3 % YoY โดยหลักๆ มาจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจค้าปลีกภายใต้ TURTLE
โดย ณ สิ้นกันยายน 2567 มีจำนวนร้าน Turtle ทั้งสิ้น 26 ร้าน เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 15 ร้าน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนในการให้บริการและการขายอยู่ที่ 928 ล้านบาท เพิ่ม 16.7 % YoY โดยอัตราต้นทุนต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 69.2 % จาก 73.4 %ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยมีสาเหตุหลักจากธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI มีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น RCash มีการปล่อยสินเชื่อที่มาก ขึ้น และ TURTLE มีการเปิดร้านเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด ส่งผลให้อัตรากำไรขึ้นต้นเพิ่มไปอยู่ที่ 30.8 %จาก 26.6 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
รายได้อื่นอยู่ที่ 58 ล้านบาท ซึ่งลดลง 90.1 % เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มีสาเหตุหลักมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนใน บริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด จำนวน 537 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกิดเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 2 2566/67
ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารอยู่ที่ 524 ล้านบาท ค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรลดลง แต่การลดลงดังกล่าวถูกหักลบด้วยการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการขยายจำนวนร้านค้า Turtle ส่งผลให้ในภาพรวม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 39.1 % จาก 49.6 % ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัว 2.7 % เมื่อเทียบกับ 1.9 % ในปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวทั้งจำนวนและค่าใช้จ่ายต่อคน การขยายตัวการอุปโภคบริโภคภายในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีมีการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลัง
ปัจจัยเหล่านี้จะเอื้อต่อสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจ โดยจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจใช้งบประมำณในการโฆษณามากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจสื่อโฆษณาและความบันเทิง ของบริษัท
นอกจากนั้น ที่ประชุมวิสำมัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ได้อนุมัติการขายหุ้นสำมัญของ ROCTEC ให้กับ บริษัท บีที เอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินกำรแล้วเสร็จ และบริษัทได้รับเงินสุทธิจำนวน 2,191.2 ล้านบาทแล้ว นอกจากนั้นยังได้อนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 13,208.2 ล้านบาท ให้กับกลุ่มนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง (PP) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2567
ภายหลังการทำธุรกรรมทั้งสองเสร็จสิ้น บริษัทฯ จะมีเงินสดเพิ่มเติมจำนวน 15,399.4 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่ แข็งแกร่ง มีความพร้อมสำหรับการลงทุนในธุรกิจธนาคารไร้สาขา ขยายธุรกิจเดิม และสามารถรองรับโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต