THAI เพิ่มทุนสำเร็จ 4.4 หมื่นล้าน ดึง ‘สหพัฒาอินเตอร์ฯ-วิชัย กุลสมภพ’ ซื้อ
“การบินไทย” เพิ่มทุนสำเร็จจำนวน 9,822,473,626 หุ้น ในราคา 4.48 บาท คิดเป็นเงินระดมทุน 4.4 หมื่นล้าน หลังดึง “สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง” ซื้อ 22.3 ล้านหุ้น และ “วิชัย กุลสมภพ” ซื้อ 2.5 แสนหุ้น
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน หรือ THAI แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทได้ดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 9,822,473,626 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ และพนักงานของบริษัทที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ตามข้อ 5.6.4 ของแผนฟื้นฟูกิจการแล้วนั้น
บริษัทขอแจ้งผลการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจากเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว โดยบริษัทได้มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,048,989,272 หุ้น และได้มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่พนักงานของบริษัทเป็นจำนวนทั้งสิ้น 59,512,700 หุ้น
และบริษัทมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการและพนักงานของบริษัทที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว หรือใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวไม่เต็มจำนวนเป็นจำนวนทั้งสิ้งสิ้น 4,713,971,654 หุ้น
ในการนี้เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนจึงได้มีมติให้นำหุ้นส่วนที่เหลือดังกล่าวไปจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัดตามข้อ 5.6.4 ของแผนฟื้นฟูกิจการ ที่ราคาเสนอขายที่เท่ากันกับราคาที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการและพนักงานของบริษัท ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ (กล่าวคือ 4.48 บาทต่อหุ้น)
โดยมีรายชื่อบุคคลในวงจำกัดที่ได้รับการจัดสรรหุ้นและจำนวนหุ้นที่บุคคลในวงจำกัดแต่ละรายได้รับการจัดสรรได้แก่ 1.บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (SPI) จำนวน 22,321,400 หุ้น และ 2.นายวิชัย กุลสมภพ จำนวน 250,000 หุ้น
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท สำหรับการแปลงหนี้เป็นทุนและการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามข้อ 5.6.3 และข้อ 5.6.4 ของแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จนั้น บริษัทจะมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนคงเหลือจากการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการซึ่งมิได้มีการจัดสรรเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,379,168,598 หุ้น
ในการนี้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนจึงได้มีมติลดทุนจดทะเบียนของบริษัท โดยการตัดหุ้นซึ่งยังมิได้มีการออกจำหน่ายจากการแปลงหนี้เป็นทุนตามข้อ 5.6.3 ของแผนพื้นฟูกิจการ และการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามข้อ 5.6.4 ของแผนฟื้นฟูกิจการรวมจำนวนทั้งสิ้น 5,379,168,598 หุ้น ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อ 5.6.7 ของแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งกำหนดให้ผู้บริหารแผนมีอำนาจดำเนินการลดทุนจดทะเบียนเพื่อตัดหุ้น ซึ่งยังมิได้มีการออกจำหน่ายดังกล่าวตามที่ผู้บริหารแผนเห็นสมสมควรได้
วันนี้ (17 ธ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มา/จำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) ของธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 1.733% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ดังนั้น จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา ของกลุ่มคิดเป็น 32.1559% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
