‘หุ้นไทย’ เผชิญแรงขายบิ๊กแคป โบรกชี้นักลงทุนปรับพอร์ต รอผลประชุม เฟด-กนง.
วานนี้ (17 ธ.ค.) “หุ้นไทย” ร่วงแรงกว่า 25 จุด หลังเผชิญสารพัดปัจจัยลบ “บล.กสิกรไทย” เผยแรงกดดันเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม และแรงขายหุ้น CPALL-CPAXT “บล.บัวหลวง” พบนักลงทุนขายลดความเสี่ยง “บล.ยูโอบี เคย์เฮียน” แนะหลุด1,400 จุด ซื้อสะสม “บล.ทิสโก้” คาดหุ้นมีโอกาส “รีบาวนด์”
ความเคลื่อนไหว หุ้นไทย วานนี้ (17 ธ.ค.2567) ปิดที่ 1,395.57 จุด ปรับตัวลง 24.15 จุด หรือ 1.70% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 55,163.20 ล้านบาท ภาวะการซื้อขายภาคบ่ายเผชิญแรงขายดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องจากภาคเช้า โดยพบนักลงทุน “ต่างชาติ” ขาย 557.88 ล้านบาท
นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงเผชิญหลากหลายปัจจัยลบ ทั้งเป็นการปรับตัวลดลงตามตลาดภูมิภาคโดยเฉพาะเอเซียใต้ หลัง bond yield สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น
รวมถึงปัจจัยเฉพาะของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ปรับตัวลงตามค่าการกลั่นลดลง และแนวโน้มอุปสงค์พลังงานที่ชะลอตัวในปีหน้า ,กลุ่มค้าปลีก ปรับลงตามความกังวงการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบางบริษัท ,กลุ่มธนาคาร ปรับตัวลงตามแนวโน้มที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงตามเฟด ทำให้ NIM ของธนาคารอาจลดลง และกลุ่มโรงพยาบาล ปรับลงบนความกังวลผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 อาจชะลอตัวจากงบประมาณของประกันกันสังคมที่อาจไม่เพียงพอ
นายพิริยพล คงวาณิช นักกลยุทธ์การลงทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง จากนักลงทุนปรับพอร์ตลดความเสี่ยงก่อนหน้าการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และ MPC คาดนักลงทุนติดตาม Dot plots คาดการณ์เศรษฐกิจ และเงินเฟ้อรวมถึงดอกเบี้ยในปีหน้า หากปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด อาจกดดันสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น
“ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสอดคล้องกับภูมิภาค นำโดย กลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะ CPALL CPAXT กังวลประเด็น ESG, กลุ่มสื่อสาร เผชิญแรงขายทำกำไร ,กลุ่มคมนาคม มีความกังวลนักท่องเที่ยวต่ำคาด”
โดยประเมินกรอบ SET index ปลายปีนี้ แนวรับ 1,390 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด กลนุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะนำ กลุ่มกำไรไตรมาส 4 ปี 2567 คาดโตดี ราคาหุ้นยังไม่ปรับตัวสูงมาก
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับลงแรง โดยหลักมาจากการปรับลดลงของกลุ่ม CPAXT และ CPALL หลัง CPAXT ประกาศเข้าลงทุนในโครงการ The Happitat ในสัปดาห์นี้
อีกทั้ง ตลาดให้ความสำคัญกับการประชุมของเฟด และ กนง. คาดมีโอกาสสูงที่คณะกรรมการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ Dot Plots และประมาณการเศรษฐกิจปี 2568 หาก Dot Plots ออกมาว่า เฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าตลาดคาดที่ 0.75% ในปี 2568 จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทย ทั้งในด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่มีโอกาสไหลกลับมายังตลาดหุ้นไทย แต่หากต่ำกว่า 0.75% คาดจะกดดันตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนมองว่า SET Index ปรับหลุด 1,426 จุด ส่งผลให้ดาวน์ไซด์เปิดระดับใกล้ 1,400 จุด แต่จะเป็นจังหวะซื้อที่น่าสนใจ Theme play หลักที่เราให้น้ำหนักอยู่ในกลุ่ม Earnings momentum play ในไตรมาส 4 ปี 2567-ไตรมาส 1 ปี 2568 มองแนวรับ 1,405 จุด และแนวต้าน 1,426-1,438 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวว่า วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CPALL CPAXT และ CPF โดยวานนี้ดัชนีฯ ลงไปต่ำกว่า 1,400 จุด มองเป็นจุดเข้าซื้อเพราะมูลค่าหุ้นอยู่ในจุดที่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมองว่ากลุ่ม CPALL ยังมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว 6 เดือนขึ้นไป
โดยคาดว่าวันนี้ (18 ธ.ค.) จะมีแรงซื้อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) เข้ามาเพราะคาดว่ากนง. อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้มองว่าวันนี้ดัชนีฯ มีโอกาสแกว่งในกรอบแนวรับ 1,390-1,400 จุด และแนวต้าน 1,420-1,450 จุด