ระเบิดเวลาลูกใหม่ ‘แซดคอม’ บัญชีมาร์จิน ‘ฟอร์ซเซล’ 20 ธ.ค.

ระเบิดเวลาลูกใหม่ ‘แซดคอม’ บัญชีมาร์จิน ‘ฟอร์ซเซล’ 20 ธ.ค.

จับตาระเบิดเวลา “บล.แซดคอม” หลังกลุ่มลูกค้าร้องสื่อ “เนชั่น” ถูกบังคับให้ชำระคืนหนี้ภายใน 20 ธ.ค. ไม่เช่นนั้นบัญชีมาร์จิน “ถูกบังคับขาย” เฉียด “หมื่นล้าน” ห่วงกระทบต่อ “ตลาดหุ้นไทย” ล่าสุด “แซดคอม” รายงานผ่านหน้าเฟซบุ๊กยอดหนี้รวมบัญชีมาร์จินราว 800 ล้าน

หากย้อนไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา พบว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จีเอ็มโอ-แซด คอม(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com มีจดหมายถึงผู้ถือหุ้น ระบุว่า บล.แซดคอม ขอให้ปิดวงเงินภายใน 20 ธ.ค. หรือไม่ก็เจรจาขอประนอมหนี้หรือผ่อนกับทาง บล.แซดคอม ซึ่งลูกค้าก็มีการเจรจาขอผ่อนชำระไปหมดแล้ว แต่ปรากฏว่าทาง บล.แซดคอม มีการส่งหนังสือมาปฏิเสธทั้งหมด และมีความไม่จริงใจในการเจรจา ซึ่งสุดท้ายบอกว่าจะ “ถูกบังคับขาย” (Force Sell) ทั้งหมดอย่างเดียว ซึ่งไม่จริงใจกับการแก้ปัญหา ซึ่งในภาวะปกติการจะถูกบังคับขายหุ้นตัวนั้นจะต้องร่วง 10% และหลักทรัพย์ค้ำประกันครอบคลุมไม่หมด จึงจะถูกบังคับขายได้

กลุ่มลูกค้า “แซดคอม” ส่งหนังสือร้องเรียน

รายงานว่า กลุ่มลูกค้า บริษัท จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com ได้ส่งหนังสือร้องเรียนมายังองค์กรสื่อเนชั่น ระบุว่า ตามที่ บล.แซด คอม (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งเอกสารลงวันที่ 14 มิ.ย.2567 บริษัทได้ส่งหนังสือถึงข้าฯ เพื่อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญากู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ที่ 0741/2567 และแจ้งให้ข้าฯ ชำระหนี้คงค้างทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 ธ.ค.2567 

โดยหากข้าฯ ไม่สามารถชำระหนี้คงค้างทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าว บริษัทจะใช้สิทธิบังคับชำระหนี้ตามที่บริษัทมีอยู่ในสัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือตามกฎหมายต่อไป 

ทั้งนี้ ตามที่ทุกท่านทราบบริษัทมีวงเงินปล่อยวงเงินเพื่อกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์อยู่มากกว่า 10,000,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นล้านบาท) นั้น และมีหลักทรัพย์มากมายกว่า 100 ตัวที่อยู่ภายใต้สัญญากู้ยืมเงินกับทางบริษัท

หากบริษัทซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นสัญชาติญี่ปุ่นและมีประธานกรรมการบริษัทเป็นคนสัญชาติญี่ปุ่นใช้สิทธิบังคับขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทมีอยู่ในสัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในวันที่ 20 ธ.ค.2567 โดยมิได้สนใจผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ไทย และนักลงทุนในตลาด จะเป็น การก่อให้เกิดความเสียหายและความน่าเชื่อถือต่อตลาดทุนไทยอย่างประเมินค่ามิได้

ลูกค้าพยายามเจรจากว่า 10 ครั้ง 

อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าและกลุ่มลูกค้าของบริษัทมิได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามเจรจากับทางบริษัทเพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอดตั้งแต่ได้รับเอกสาร ข้าพเจ้าได้เสนอเงื่อนไขต่างๆ ไปมากกว่า 10 ครั้ง ทั้งทางวาจาและทางเอกสาร เช่น เงื่อนไขการผ่อนชำระ และวางหลักประกันเพิ่มเติม ฯลฯ แต่ทางบริษัทก็ปฏิเสธทุกเงื่อนไขที่ข้าพเจ้าเสนอ และไม่เคยตอบกลับมาว่าบริษัท ต้องการเงื่อนไขอย่างไร ซึ่งการกระทำของบริษัทถือเป็นการไม่จริงใจต่อการเจรจาและแก้ปัญหา

โดยจดหมายฉบับนี้ข้าพเจ้าขอให้ท่านเข้าตรวจสอบ พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือและความเป็นธรรมต่อลูกค้าทุกๆ รายก่อนที่จะเกิดความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ต่อตลาดทุนในวันที่ 20 ธ.ค.2567 

ข้าพเจ้าหวังว่าตามบทบาท หน้าที่ ท่านจะรีบดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทและนักลงทุนรายย่อย เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นวันที่ 20 ธ.ค.2567 นอกจากนี้ ผู้ร้องเรียนยังส่งหนังสือถึง นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ก.ล.ต., ตลท. และสถานทูตญี่ปุ่น 

ด้วยก่อนหน้านี้ Z.com แจ้งผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่า บริษัทได้ตัดสินใจยุติการให้บริการในส่วนของบัญชีมาร์จินทั้งหมด ในวันที่ 20 ธ.ค.2567 ซึ่งบริษัทจะส่งหนังสือแจ้งนักลงทุนเกี่ยวกับรายละเอียดการยุติการให้บริการในส่วนดังกล่าวต่อไป และขอให้นักลงทุนที่ใช้บริการบัญชีมาร์จินของบริษัทติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการปิดบัญชีให้แล้วเสร็จก่อนวันครบกำหนด (ตามที่จะได้แจ้งให้ทราบในหนังสือของบริษัทต่อไป) ในส่วนของบัญชี Cash Balance นั้น บริษัทยังคงให้บริการแก่นักลงทุนตามปกติโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ปล่อยมาร์จิน มูลค่า “หมื่นล้าน” 

โดยที่ผ่านมาทาง บล.แซดคอม เคยระบุว่า มีการปล่อยมาร์จินมูลค่ากว่า “หมื่นล้านบาท” โดยเฉพาะการปล่อยกู้ให้กับ “ผู้ถือหุ้นใหญ่” ของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) จะเห็นจากช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง ทางบล.แซดคอม เกิดความเสียหายค่อนข้างสูง สะท้อนจากผลดำเนินงานที่ “ขาดทุน” จำนวนมาก ดังนั้น หากในวันที่ 20 ธ.ค. นี้ ทาง บล.แซดคอม ดำเนินการจริงอย่างที่แจ้งกับกลุ่มลูกค้า ซึ่งสถานการณ์ในวันนั้นจะมีหุ้นที่ถูกบังคับขายออกมาในกระดานกว่า 100 ตัวแน่นอน ซึ่งหากถ้าเทียบกับ “มูลค่าการซื้อขาย” (วอลุ่ม) ในตลาดปัจจุบัน และเทียบกับจำนวนเงินที่จะมารองรับหุ้นที่โดดบังคับขายในตลาดไม่น่าจะพอ  

สอดรับกับภาวะความเปราะบางของตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง ดังนั้น แน่นอนว่าในวันศุกร์นี้ (20 ธ.ค.) คงต้องเป็น “วันโลกาวินาศของตลาดหุ้น” อย่างแน่นอนหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ซึ่งหุ้นอาจจะฟลอร์ราว 50-60 ตัว (นับจากมูลค่าหมื่นล้าน) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาต่อหุ้นตัวอื่นๆ ด้วย เนื่องจากเซนทริเมนต์และจำนวนเงินที่จะเข้ามารองรับในตลาดไม่มีทางเป็นไปได้

ประธานตลท. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน 

ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบเรื่องดังกล่าว และอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ดังนั้น หากมีข้อเท็จจริงประการใดจะดำเนินการแจ้งรายละเอียดในทันที

แจ้งผ่านเฟซบุ๊กมียอดบัญชีมาร์จินราว 800 ล้านบาท  

ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงให้นักลงทุนทุกท่านทราบว่า เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น ปัจจุบันบริษัทมียอดหนี้รวมของบัญชีมาร์จินอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท

ผลประกอบการ “แซดคอม” ขาดทุนรวมกว่า “พันล้าน” 

ขณะที่ ผลประกอบการของ Z.com ในประเทศไทย อาจจะ “ไม่สู้ดีนัก” แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 1,040.07 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 1,115.56 ล้านบาทในปี 2566 แต่บริษัทมีรายจ่ายสูงถึงกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปี รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

ในขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. นั้น Z.com มีรายได้รวมอยู่ที่ 527.64 ล้านบาท ลดลงจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 647.68 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสำหรับงวดดังกล่าวอยู่ที่ 1,006.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 361.67 ล้านบาท