4 CEO หุ้นไฟแรงพุ่งเข้าดัชนี SET50 ปี 2568

4 CEO หุ้นไฟแรงพุ่งเข้าดัชนี SET50 ปี 2568

4 CEO หุ้นไฟแรงพุ่งเข้าดัชนี SET50 ปี 2568 ประกอบด้วย บมจ. บ้านปู (BANPU) บมจ. แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (CCET) บมจ. คอมเซเว่น (COM7) บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 SET50FF ,SET100 SET100FF, sSET, SETCLMV, SETHD, SETESG และ SETWB ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 (1 มกราคม-30 มิถุนายน 2568)ไปแล้ว ขอโฟกัสไปที่ ดัชนี SET50 เป็นดัชนีหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง มีสภาพคล่องสม่ำเสมอ และมีการกระจายหุ้นที่เหมาะสม ซึ่งมีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 4 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. บ้านปู (BANPU) บมจ. แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (CCET) บมจ. คอมเซเว่น (COM7) บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ซึ่ง "กรุงเทพธุรกิจ" จะพาไปรู้จัก CEO ของทั้ง 4 บริษัท

1.บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) CCET 

คงสิทธิ์ โจวกิจเจริญ หรือ Tony Chou กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) CCET นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งในบริษัทย่อยสำคัญๆ หลายแห่งภายใต้กลุ่มบริษัทในประเทศต่างๆ เช่นไต้หวัน, ไทย, ฟิลิปปินส์, บราซิล, มาเลเซียและสิงคโปร์ ในฐานะผู้บริหารสูงสุดฝ่ายปฏิบัติการ โดย "คงสิทธิ์ โจวกิจเจริญ" เป็นผู้นำในการวางกลยุทธ์การดำเนินงานและการลงทุนของกลุ่มธุรกิจการผลิตแบบบูรณาการครบวงจรทั่วโลก

ทั้งนี้ คงสิทธิ์ โจวกิจเจริญ สำเร็จการศึกษา EMBA จาก Pacific Western University สหรัฐอเมริกาและปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์จาก Feng Chia University ประเทศไต้หวัน

ล่าสุด CCET ได้ร่วมมือกับ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการใช้ Automated Smart Manufacturing ในทุกกระบวนการผลิต และใช้ระบบดิจิทัลในการบริหารจัดการ ตามความมุ่งมั่นเพื่อการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมด้านการผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนอีเล็คโทรนิคส์ (Electronics manufacturing Services (EMS))

โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรม EMS ด้วยการผนวกจุดแข็งด้านระบบอัตโนมัติของ DELTA เข้ากับศักยภาพการผลิตของ CCET ทั้งสององค์กรมุ่งมั่นที่จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการผลิตที่ชาญฉลาดและยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมและการดูแลสิ่งแวดล้อมให้ทัดเทียมมาตรฐานและเทรนด์การผลิตระดับโลก

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)  หรือ CGSI เปิดเผยว่า หุ้น CCET โดยฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำเก็งกำไร หลังบริษัทเข้าคำนวณดัชนี SET50/SET100 ในครึ่งแรกปี 68 2 ม.ค.-30 มิ.ย.68 ขณะที่ผู้บริหารของบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 68 จะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจาก อาทิ 1.ลูกค้ามีแนวโน้มจะย้ายการผลิตมาไทยมากขึ้นเพื่อกระจายฐานการผลิตออกจากจีนและเวียดนาม 2.บริษัทจะขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพเติบโตสูง และ 3.บริษัทขยายกำลังการผลิตในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับ มาร์เก็ตแคป CCET ที่ 105,545.03 ล้านบาท ราคา ณ วันที่ 2 ม.ค.68 ที่ 9.85 บาท ส่วนกำไรในรอบ 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 1,985.89 ล้านบาท 

2.บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) BANPU 

สินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 อายุ 35 ปี เป็นบุตรชายของนายชนินทร์ ว่องกุศลกิจประธานกรรมการบมจ.บ้านปู ได้สําเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาโท Global Management pathway in Finance and Business Developmentมหาวิทยาลัย Regent's Universityและหลักสูตรปริญญาตรี Business and Marketing Managementมหาวิยาลัย Oxford Brookes University ประเทศอังกฤษ

เริ่มทำงานในกับบ้านปูเมื่อปี 2557 โดยดูแลรับผิดชอบงานด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ที่หลากหลายทางด้านกการเงินการลงทุนการจัดการโครงการระหว่างประเทศมีส่วนร่วมในโครงการเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญทั้งการตัดสินใจด้านการเป็นและสินทรัพย์การบริหารพอร์ตโฟลิโอธุรกิจให้เติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter รวมถึงเป็นเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านองค์กรตลอดจนมีบทบาทในการนำบมจ.บ้านปูเพาเวอร์เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2559การควบรวมกิจการของบริษัทในกลุ่มบ้านปูเพื่อก่อตั้งบ้านปูเน็กซ์และการขายบริษัทSunseap GroupPte,Ltd. 

ทั้งนี้ สินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี หรือ EBITDA ที่ 1.5 เท่า ภายในปี 73 โดยวางงบลงทุน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย 40% ใช้ลงทุนในธุรกิจแก๊ส พลังงาน และอีก 40% ใช้ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากราคา Natural Gas ในสหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นทั้งจากการเข้าสู่ฤดูหนาว และปัจจัยหนุนหลังรัสเซียหยุดส่ง Natural Gas ผ่านท่อของยูเครนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 หลังสัญญาครบกำหนด จึงคาดว่าจะส่งผลให้ประเทศยุโรปมีโอกาสนำเข้า LNG จากสหรัฐฯ เพิ่ม เป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรของ BKV ในสหรัฐฯ รวมทั้งมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ การเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิปดีของทรัมป์ในวันที่ 20 ม.ค. มีโอกาสได้อานิสงค์จาก 1.นโยบายลด Corporate Tax ของสหรัฐฯ 2.การปลดล็อกข้อกำหนดให้ส่งออก LNG ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV เพียง 0.5 เท่า แนะสะสม BANPU แนวต้านทางเทคนิค 6.40 บาท 

สำหรับ มาร์เก็ตแคป BANPU ที่ 60,113.42 ล้านบาท ราคา ณ วันที่ 2 ม.ค.68 ที่ 6.00 บาท ส่วนกำไรในรอบ 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 1,658.92 ล้านบาท 

3.บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SAWAD

ฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD จบการศึกษาระดับปริญญาตรีบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช และผ่านหลักสูตรอบรมของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD) DAP Director Accreditation Program ปี 2556

บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า หลังจากสัญญาณหุ้นกู้เริ่มดีขึ้น จากผลตอบรับของนักลงทุนมีอย่างล้นหลาม ซึ่งช่วย SAWAD สามารถสร้างแหล่งเงินทุนในการเร่งปล่อยสินเชื่อมากขึ้นในช่วง Q4/67 คาดจะผลักดันให้กำไรไตรมาส 4/67 มีโอกาสปรับขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ซึ่งปัจจัยสนับสนุนด้านหุ้นกู้ ที่ส่งสัญญาณบวกทำให้คาดว่าในปี 68 ธุรกิจของ SAWAD จะสามารถกลับมามีอัตราการปล่อยสินเชื่อที่เติบโตสูงขึ้น และมีกำไรที่เติบโตขึ้นราว 12.4% YoY ได้ 

ทั้งนี้ SAWAD ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องปี 68 ยังคงแนะนำ “ซื้อ” พร้อมให้ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ราคา 48 บาท ขณะที่ราคายังมีลุ้น upside ได้ถึง 17%

สำหรับ มาร์เก็ตแคป SAWAD ที่ 63,061.89 ล้านบาท ราคา ณ วันที่ 2 ม.ค.68 ที่ 41.00 บาท ส่วนกำไรในรอบ 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 3,826.79 ล้านบาท

4.บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) COM7 

สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 การศึกษาระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ Indiana University, สหรัฐอเมริกา ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ-การตลาด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ผ่านการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตร พัฒนากรรมการ (DAP) ของสมาคม ส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยปี 2556

หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยังคงเป็นห่วงว่าการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในปี 68 จะบีบให้บริษัทต้องจัดแคมเปญการตลาด ซึ่งจะเป็นการกดดันมาร์จิ้น ถึงแม้ว่าบริษัทจะมองหาช่องทางที่จะกระจายไปยังธุรกิจใหม่ๆ อย่างเช่น DR.Pharma, PetPaw และ Gold integrate แต่ธุรกิจใหม่ดังกล่าวยังไปได้ไม่ดีนัก โดยมองว่าบริษัท น่าจะยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปรับปรุงธุรกิจใหม่อีก ซึ่งก่อนหน้านี้ ยังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 68 ที่ 31 บาท อิงจาก PER ที่ 22 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.5 S.D.) 

สำหรับ มาร์เก็ตแคป COM7 ที่ 62,999.95 ล้านบาท ราคา ณ วันที่ 2 ม.ค.68 ที่ 25.75 บาท ส่วนกำไรในรอบ 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 2,282.80 ล้านบาท 

4 CEO หุ้นไฟแรงพุ่งเข้าดัชนี SET50 ปี 2568