ตลท.เร่งเกณฑ์สกัด ‘จำนำหุ้น’ ล้อมคอกรื้อมาตรการ ‘กำกับซื้อขาย’ เสนอบอร์ดปลาย ม.ค.นี้
ตลท.เร่งเกณฑ์สกัด ‘จำนำหุ้น’ ล้อมคอกรื้อมาตรการ ‘กำกับซื้อขาย’ เสนอบอร์ดปลาย ม.ค.นี้ พบนำหุ้น “อาร์เอส” วางประกันในบัญชีมาร์จิน 222 ล้านหุ้น มูลค่า “พันล้าน”
ตลท. เล็งเปิดเผยข้อมูล “จำนำหุ้น” ที่อยู่ในระบบ TSD หวังช่วยนักลงทุนมีข้อมูลประกอบตัดสินใจลงทุนมากขึ้น พร้อมทบทวนมาตรการกำกับการซื้อขายอีกครั้งก่อนเสนอบอร์ดปลาย ม.ค.นี้ เปิดเกณฑ์ ก.พ. ด้านกรณี “หุ้นอาร์เอส” ดิ่งหนัก ยังไม่ได้ส่งหนังสือสอบถาม พบนำหุ้นไปวางประกันในบัญชีมาร์จิน 222 ล้านหุ้น มูลค่า 1 พันล้าน ราคาหุ้น “RS-RSXYZ” กอดคอดิ่งฟลอร์ 2 วันติด
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ ในฐานะโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการในการกำกับการซื้อขายที่ออกมาจะมีการทบทวนอีกครั้ง โดยในช่วงปีที่ผ่านมามีการออกมาตรการ การซื้อขายกว่า 10 มาตรการ เพื่อกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุน
รวมทั้งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะรวบรวมข้อมูลการจำนำหุ้นผ่านระบบศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD มาเปิดเผยให้ผู้ลงทุนได้รับทราบ ซึ่งรูปแบบจะคล้ายกับการรายงานหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิน (มาร์จินโลน) ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดเผยแบบรายเดือน
โดยข้อมูลเรื่องการจำนำหุ้น ถือเป็นปัญหาที่ ตลท.และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หารือกันมาอย่างต่อเนื่อง แม้การเปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้นอาจไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด แต่เป็นการช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุนมากขึ้น โดย ตลท.ต้องการให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มาโฟกัสที่ธุรกิจของตัวเองมากกว่า เพราะการนำหุ้นไปจำนำไม่รู้ว่าผู้บริหารเขาไปโฟกัสที่ตรงไหน
“ตลท.และ ก.ล.ต. ก็ได้มีการทำงานร่วมกันเพื่อสามารถทำหน้าที่กำกับดูแล และออกมาตรการมาช่วยเหลือเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษา ส่วน ตลท.ก็จะทำหน้าที่กำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนควบคู่การเปิดข้อมูลต่างให้แก่นักลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนหุ้นตัวนั้นๆ”
ตลท.เร่งทบทวน และเสนอบอร์ดปลาย ม.ค.นี้
โดยอยู่ในขั้นตอนของทบทวน และจะมีการนำเสนอต่อบอร์ดเพื่อทำการพิจารณาในการประชุมบอร์ดในปลายเดือนม.ค.2568 นี้ และจะแถลงถึงความคืบหน้าต่อไปในช่วงกลางเดือนก.พ. 2568 ซึ่งมาตรการในการกำกับการซื้อขายที่ผ่านมา หลายมาตรการจะทบทวนอย่างไรบ้าง โดยในช่วงปีที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการกำกับการซื้อขาย
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติจากมาตรการฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีมาตรการต่างๆ ที่ได้ออกใช้ในปี 2567 ได้แก่ 1. มาตรการการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์ ประกอบไปด้วย การทบทวนหลักทรัพย์ที่ Short Selling ได้ การเพิ่ม Uptick ทุกหลักทรัพย์ เพื่อควบคุมผลกระทบจาก Short Sell เพิ่ม Circuit Breaker รายหุ้น (Dynamic Price Band) เฟส 1 และ เพิ่มมาตรการ Auction หุ้นที่อยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2 ขึ้น
2. มาตรการกำกับพฤติกรรมซื้อขายที่ไม่เหมาะสม ซึ่งกำหนดเวลาขั้นต่ำของ order ก่อนยกเลิกคำสั่ง (Minimum Resting Time) รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผู้ลงทุนที่ส่งคำสั่งไม่เหมาะสม
3. มาตรการเพิ่มความคุ้มครองนักลงทุน โดยรายงาน Outstanding Short Position รวมถึงเพิ่มบทระวางโทษสมาชิกให้เข้มข้นขึ้น และเปิดเผยข้อมูลการถือ NVDR และลงทะเบียนผู้ใช้ HFT (การส่งคำสั่งซื้อขายด้วยความถี่สูง)
นอกจากนี้ ข้อมูลจำนำหุ้นยังไม่มีการเปิดเผยตลาดหลักทรัพย์กำลังพิจารณาว่าจะเปิดเผยข้อมูลเชิงสถิติได้แค่ไหน และจะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้ง
หุ้นดิ่ง พบนำ “หุ้น RS” ไปวางประกันในบัญชีมาร์จิน
ส่วนกรณีราคาหุ้นบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)หรือ RS ร่วงลงฟลอร์ติดต่อกันสองวัน ทำให้เกิดความกังวลว่าผู้บริหารถูกบังคับขาย (Force Sell) นั้น พบว่า RS เปิดเผยข้อมูลการนำหุ้นไปใช้เป็นหลักประกันซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (Margin Loan) กับโบรกเกอร์ประมาณ 222 ล้านหุ้น หรือราว 10.2% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งอาจถูก Force Sell มองเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นในการลงทุน
ทั้งนี้ ตลท.มีหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หากมีการเคลื่อนไหวที่นักลงทุนควรรู้ จะถาม บจ.แต่กรณีนี้เป็นเรื่องการลงทุนของผู้ถือหุ้นหรือการตัดสินใจของผู้บริหารซึ่งต้องแยกกัน
โดยดูข้อมูลหุ้นที่จะใช้เป็นหลักประกัน Margin Loan ได้ หากย้อนไปดูสถิติที่มีการเปิดเผยมา สิ้นเดือนพ.ย.67 หุ้น RS มีการนำไปใช้เป็นหลักประกัน Margin loan จำนวนสูงถึง 222 ล้านหุ้น หรือ 10.2% ของหุ้นที่จดทะเบียนทั้งหมด และย้อนกลับไปเมื่อประมาณก่อนถูก Force Sell อยู่ที่ 5 บาทกว่า
ทั้งนี้ หุ้นที่เป็นหลักประกัน Margin loan กับหุ้นที่จำนำ ต่างประเภทกัน เพราะหุ้นที่จำนำต้องจดจำนำ ถ้าไปดูข้อมูลหุ้น บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG พบว่า การนำไปเป็นหลักประกัน Margin loan มีสัดส่วนสิ้นเดือนพ.ย.2567 เพียงแค่ 10.3 ล้านหุ้น หรือแค่ 0.5% แต่พบว่า มีการบังคับขายหุ้นจำนำเพื่อไปขายทอดตลาด เนื่องจากนำหุ้นไปจำนำจึงมีการบังคับ Force Sell แต่ต่างกับกรณีของหลักประกัน Margin loan ดังนั้น หากดูหุ้น THG การกระทบของหุ้นเฉพาะนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม กรณีเปิดเผยข้อมูล และการถือครองการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก.ล.ต.มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการในการปรับปรุงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เรื่องของการเปิดเผยข้อมูลเป็นหลักประกันในการเปิดเผยข้อมูล โดยสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์มีการหารือถึงข้อมูลที่เปิด ณ ปัจจุบันเป็นข้อมูลในชั้นหลักประกัน Margin loan
พบปลายปี 67 ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้น 4-5 ครั้ง
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า RS ใช้หุ้นวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิน ตามรายงาน ตลท. เดือนพ.ย.67 พบว่าหุ้น RS ถูกใช้เป็นหลักทรัพย์วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จินของลูกค้าจำนวน 222 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย มีความเสี่ยงถูก Force Sell เมื่อราคาหุ้นลดลง
โดยการซื้อขายหุ้นของผู้บริหาร พบว่าช่วงปลายปี 2567 ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ RS มีการขายหุ้น 4-5 ครั้ง ๆ ละ 5-10 ล้านหุ้น ที่ราคา 5.5-5.86 บาทต่อหุ้น แม้ว่าจะคิดเป็นสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่มองไม่เป็นบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ส่วนผลการดำเนินงานยังไม่สดใส งวดไตรมาส 3 ปี 2567 RS รายงานผลการดำเนินงานปกติมีผลขาดทุน -301 ล้านบาท พลิกจากกำไร 71 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2566 และขาดทุนเพิ่มจาก -64 ล้านบาท ในไตรมาส 2/66 เนื่องจากรายได้ลดลงกว่า -37% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ -20% จากไตรมาสก่อน ตามการหดตัวของรายได้ธุรกิจ Commerce และ Entertainment
และแนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2567 คาด RS ยังคงมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติต่อเนื่อง ส่วนฐานะทางการเงิน ณ สิ้น ไตรมาส 3 ปี 2567 มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 3,839 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น
หุ้น RS-RSXYZ กอดคอดิ่งฟลอร์ 2 วันติด
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น RS วานนี้ (8 ม.ค.2568) ปรับตัวลดลง “ติดฟลอร์” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยหุ้น RS มาอยู่ที่ 2.60 บาท ลดลง 1.14 บาท หรือ 30.48% โดยมีราคาสูงสุดของวันอยู่ที่ 2.62 บาท ซึ่งมูลค่ามาร์เก็ตแคปหายวับไป 6,000 ล้านบาท และยังเป็นราคาหุ้นต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 หรือ ในรอบเกือบ 12 ปี โดยหุ้น RS ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยช่วง 8 วันทำการที่ผ่านมา ราคาปรับลดลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2567 ที่ 5.50 บาท สู่ระดับ 2.60 บาท หรือ 52.3%
ส่วน บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) หรือ RSXYZ ปรับตัวติดฟลอร์ มาอยู่ที่ 0.80 บาท ลดลง 0.35 บาท หรือ 30.43% โดยทำราคาสูงสุดของวันที่ 1.02 บาท โดยช่วง 20 วันทำการที่ผ่านมา ราคาหุ้น RSXYZ ปรับลดลง จากราคาปิดตลาดวันที่ 6 ธ.ค.2567 ที่ 2.16 บาท และทำราคาต่ำสุดวันนี้ที่ 0.80 บาท ลดลง 1.34 บาท หรือ 62%
“อาร์เอส” แจงอยู่ระหว่างตรวจสอบหุ้นร่วง ยันไร้ผลกระทบธุรกิจ
นายวิทวัส เวชชบุษกร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ชี้แจงพัฒนาการที่สำคัญของบริษัทเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ลงทุน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่า จากกรณีที่ราคาหุ้น RS ปรับตัวลงเกิดจากกลไกตลาด และปัจจัยภายนอกที่ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และสถานะการเงินของบริษัท
สำหรับข่าวจากสื่อมวลชนบางสำนักที่ระบุว่า ผู้บริหารบริษัทขายหลักทรัพย์ตามเงื่อนไข (Forced sell) บริษัทไม่ทราบประเด็นดังกล่าว และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าไม่มีปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และการดำเนินงานของบริษัทยังเดินหน้าไปตามวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ในปี 2568
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอตามพันธกิจที่มีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับความสุข และความเป็นอยู่ที่ดี (Life Enriching) พร้อมดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เพื่อให้ทุกธุรกิจในเครือเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้น หากมีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ บริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนทราบผ่านช่องทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต่อไป
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์