หุ้นไทยวันนี้ (13 ม.ค.) ปิดตลาดลบ 13.65 จุด พรุ่งนี้จ่อรีบาวด์ หลังทดสอบแนวรับสำคัญ
“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (13 ม.ค.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,354.34 จุด ลบ 13.65 จุด หรือ 1.00% โบรกฯ ชี้ พรุ่งนี้หุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์หลังทดสอบแนวรับสำคัญ 1,354 จุด โดยแนะจับตา ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของสหรัฐ (กลางสัปดาห์) และจีพีดีไตรมาส 4 ของจีน (วันศุกร์)
“หุ้นไทยวันนี้” (13 ม.ค.) ความเคลื่อนไหว ดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,354.34 จุด ลบ 13.65 จุด หรือ 1.00% โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางปรับตัวลงทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,349.02 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,362.14 จุด มูลค่าซื้อขาย 42,966.09 ล้านบาท
ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (13 ม.ค. 2568)
หุ้นไทยวันนี้ (13 ม.ค.) ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
1. DELTA มูลค่า 3,313.71 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 148.50 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ 5.11%
2. KBANK มูลค่า 2,231.55 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.57%
3. PTTEP มูลค่า 2,169.34 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 127.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 2.01%
4. AOT มูลค่า 2,114.34 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 56.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 3.00%
5. GULF มูลค่า 1,875.59 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 58.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.85%
นายณัฐพล คำถาเครือผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยปิดลดลงเกือบหลายสิบจุด ท่ามกลางแรงเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลก
ปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ :
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นและดอลลาร์แข็งค่า ดังนั้นนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจชะลอหรือระงับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้เกิดการขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
ปัจจัยภายในประเทศ:
กลุ่มหุ้นท่องเที่ยวได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในช่วงตรุษจีน อันเนื่องมาจากกรณีดาราจีนสูญหาย
ในขณะที่ นายณัฐพล กล่าวว่า ประเด็นการร่วมเวทีดินเนอร์ทอล์คของดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ส่งผลกระทบชัดเจนต้องรอจับตาคืนนี้รวมทั้งตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงใกล้เคียงกับภูมิภาค
รวบรวมโดยกรุงเทพธุรกิจ
สำหรับแนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.) คาดว่าจะมีการรีบาวด์ หลังจากทดสอบแนวรับที่ 1,354 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,370 จุด
ในขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามประกอบด้วย ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของสหรัฐ (กลางสัปดาห์) และตัวเลขผลิตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ของจีน (วันศุกร์)
รวมรวมโดยกรุงเทพธุรกิจ
นายณัฐพล แนะนำการลงทุนว่า ให้เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและคาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ดี ได้แก่ BANPU PTTEP SCB CPALL และ CPF