หุ้น OSP ร่วง 3.70% ไตรมาส 4/67 คาดกำไรต่ำ หลังตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งเดือด

หุ้น OSP ร่วง 3.70% ไตรมาส 4/67 คาดกำไรต่ำ หลังตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งเดือด

หุ้น OSP ร่วง 3.70% ลดลง 0.70 บาท ราคาอยู่ที่ 18.20 บาท นักวิเคราะห์เผย ไตรมาส 4/67 คาดกำไรต่ำ หลังตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งเดือด ส่วนแบ่งตลาดหด 45% จาก 45.4% เทียบไตรมาส 3/67

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 29 ก.พ.2568 เวลา 10.10 น. หุ้น OSP  หรือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ลบ 3.70% ลดลง 0.070 บาท ราคา หุ้น OSP อยู่ที่ 18.20 บาท

หุ้น OSP ร่วง 3.70% ไตรมาส 4/67 คาดกำไรต่ำ หลังตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งเดือด

นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า หุ้น OSP ไตรมาส 4/67 คาดกำไรสุทธิ 573 ล้านบาท หดตัว -3% y-y แต่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ q-q โดยเราคาดกำไรไตรมาส 4/67 กลับมาฟื้นตัว q-q เนื่องจากไตรมาสก่อนหน้ามีขายธุรกิจขวดแก้วในพม่าทำให้มีรายการพิเศษเชิงลบ 1,034 ล้านบาท ทำให้รายงานขาดทุนสุทธิ 361 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าวพบว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 633 ล้านบาท หดตัว -16% y-y และ -6% q-q ส่งผลให้กำไรสุทธิคาดจะอยู่ที่ 573 ล้านบาท -3% y-y ฟื้นตัวแรง q-q ขณะที่ยอดขายรวมคาด -3% y-y แต่ +5% q-q ที่ 6,314 ล้านบาท แยกตามกลุ่มธุรกิจดังนี้

กลุ่มเครื่องดื่ม สัดส่วน 77% คาดยอดขายทรงตัว y-y เนื่องจากลดการรับจ้างผลิตลง แต่หาก q-q คาดฟื้นตัวโดยเฉพาะยอดขายต่างประเทศทั้งในเมียนมาร์ และอินโดนีเซียที่โตระดับ 2 หลักมาหักล้างการลดลงของยอดขายในประเทศได้

กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล สัดส่วน 12% ยอดขายโต 7-9% y-y โดยเฉพาะเบบี้มายด์ที่โต 2 หลักจากการออกสินค้าใหม่ รวมถึงการทำการตลาดร่วมกับ “หมีเนย”

ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้น คาดดีขึ้น q-q เราคาดที่ 38.2% จาก 36.1% ในไตรมาส 3/67 จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายกลุ่มต่างประเทศ และของใช้ส่วนบุคคลที่มีอัตรากำไรสูงกว่าการขายในประเทศ 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าค่าใช้จ่ายขายและบริหารจะเพิ่มขึ้น 19% y-y และ 11% q-q จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงคาดจะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนราว 60 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย 

ส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัทร่วมคาด 41 ล้านบาท -2% y-y -16% q-q และคาดจะมีรายการพิเศษปิดบางหน่วยธุรกิจในยุโรปลบ 60 ล้านบาท 

“เรากังวลต่อกลยุทธ์ของ OSP ในการชิงส่วนแบ่งตลาดว่าจะทำให้แย่งยอดขายกันเองระหว่างราคา 10 บาท และ 12 บาท รวมถึงการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงจะเห็นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูว่ากลยุทธ์ใหม่จะส่งผลได้อย่างที่คาดหรือไม่ Valuation ไม่แพง ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงมากเกินไปสะท้อนปัจจัยลบมากแล้ว เรามองว่าเริ่มน่าสนใจทยอยสะสม”