9 หุ้น Dividend Play ปี 67 ล็อกจ่ายปันผล ลงทุนระยะ 1 - 2 เดือน

SCC (Neutral, TP25F-175): คงคำแนะนำ Neutral ต่อSCC ที่TP25F = 175.0 บาทยังไม่มี catalyst ในระยะสั้นจากการฟื้นตัวของกำไรยังอยู่ในระดับต่ำโดยผลประกอบการ 4Q24 ออกมาขาดทุน 512 ล้านบาท ปัจจัยฉุดมาจากทุกส่วนธุรกิจที่เผชิญสภาวะแข่งขันสูงโดยธุรกิจซีเมนต์ปริมาณขายลดลง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น, ปิโตรเคมียังเผชิญ oversupply ฉุด product spread และบรรจุภัณฑ์สภาวะการแข่งขันสูงส่งให้ต้องปรับลดราคาขายกดดันอัตรากำไร ทั้งนี้บริษัทประกาศ “จ่ายปันผล 2.5 บาท/หุ้นคิดเป็น yield ราว 1.6%”  ขึ้น XD วันที่ 2 เม.ย.2568

SAWAD (Trading Buy, TP25F-42):คงคำแนะนำ TRADING BUY และคง TP25F ที่ 42 บาท ชอบSAWAD เพราะเห็นพัฒนาการในเชิงบวกด้านคุณภาพสินทรัพย์ส่งผลให้คาดปี 2568 มีโอกาสเห็น SAWAD กลับมาเติบโตสินเชื่อรวม และกำไรสุทธิ 2568 คาดเติบโต+10% y-y จากปี 2567 คาดเพียงทรงตัวy-y สำหรับกำไรสุทธิ4Q24F คาดที่ 1,320 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น+4%y-y และ+2%q-q

เพราะรายได้การขายประกันเพิ่มขึ้น การขาดทุนรถยึดลดลงเหลือ 150-200 ล้านบาท จาก 3Q24 ที่ 250 ล้านบาท และการชำระหนี้ของลูกหนี้ดีขึ้นสำหรับสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น+2% q-q คิดเป็น +1% YTD จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อจำนำทะเบียนด้านคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับควบคุมได้ NPL Ratio ที่ 3.50%ใกล้กับ 3Q24 ที่ 3.49%

Bank(Neutral) :มองธีมการลงทุน กลุ่มธนาคารเป็น value play มากกว่า growth story เพราะธนาคารคง "ปันผลระดับสูง"  dividend yield "คาดที่ 4-9% ต่อปี" และราคาหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ซื้อขายต่ำกว่า Book Value โดยภาพรวมปี 2567  มองการจัดการคุณภาพสินทรัพย์เป็นประเด็นหลัก  ดังนั้นการลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง(credit cost) จะเป็นตัวหลักในการผลักดันการเติบโตกำไรสุทธิรวมถึงการบริหารจัดการเงินทุนทั้งการเพิ่ม dividend payout ratio และการซื้อหุ้นคืนจะช่วยเพิ่ม ROE ในอนาคตได้

KSS มีมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นปันผลในช่วงต้นปีเนื่องจาก KSS ได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นปันผล(SETHD) ย้อนหลัง10 ปีพบว่า SETHD ในช่วงเดือนม.ค. – ก.พ. ของทุกปีผลตอบแทนมักเป็นบวกเดือนม.ค. ผลตอบแทนบวก 6 ใน 10 ปีเฉลี่ย+0.7%, เดือนก.พ. บวก 7 ใน 10 ปีให้ผลตอบแทนเฉลี่ย+0.67%

SETHD ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของทุกปี (งวด1Q) ผลตอบแทนเป็นบวก 7 ใน 10 ปีเฉลี่ย+0.85%) กลยุทธ์แนะนำซื้อหุ้นปันผลสูงก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD 2 สัปดาห์แล้วขายวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD (dividend capture) มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ทำการ       

คัดกรองหุ้นปันผลเด่นภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ1. เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผลช่วง2567  (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลครั้งเดียว) หรือ ครึ่งปีหลัง 2567 (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง) 2. เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มการเติบโต/กระแสเงินสดมั่นคง/อยู่ใน Theme ลงทุนหลักปี 2567

อาทิ Theme เศรษฐกิจไทยปี 2567  เติบโต อาทิ กลุ่มธนาคารหรืออยู่ในอุตสาหกรรม Up Cycle อาทิ Sector ICT หรือหุ้นที่อยู่ในกลุ่มได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลงอาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลุ่มการเงิน ฯลฯ โดยเรียงตามอัตราตอบแทนเงินปันผลจากสูงไปต่ำพบว่ามีหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลเด่น 9 บริษัทคือ

กลุ่มหุ้น Big Cap ได้แก่ SCB (TP Max Con 135.0, Yield 2H24F 8.6%), TTB (TP25-2.2,Yield 2H24F 7.2%) HMPRO (TP25-13.5,Yield 2H24F 4.3%) INTUCH (TP25-108,Yield 2H24F 4.2%), ADVANC (TP25-305, Yield 2H24F3.7%)

กลุ่มหุ้น Mid Cap ได้แก่ AP (TP25-11.8., Yield 2H24F 7.65%), TISCO(TP25-97.0, Yield 2H24F 5.84%), SC (TP25-3.2, Yield 2H24F 5.52%), JMT (TP25-22.8, Yield 2H24F 2.3%)  และหุ้นปันผลสูงครึ่งหลังปี 2567 ADVANC, INTUCH, SCB,TTB, HMPRO,JMT AP, SC, TISCO

สถิติหุ้นปันผลเด่น 9 บริษัทดังกล่าวข้างต้น ย้อนหลัง 8 ปีหากลงทุนซื้อหุ้นก่อน 2 สัปดาห์ และขายวันที่ขึ้น XD ผลตอบแทนเป็นบวก 

โดยหุ้นที่ให้ Return มากที่สุดคือ JMT +5.36%, TTB +4.16%, ADVANC +3.05%, ส่วน SCB, HMPRO, INTUCH, AP, SC, TISCO ผลตอบแทน(Capital Gain) เฉลี่ยอยู่ราว 1% เท่ากับว่าการลงทุนหุ้นกลุ่ม High Dividend ในช่วงเวลาดังกล่าวหลายๆครั้งนักลงทุนจะมักจะได้รับเงินปันผลฟรี

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์