โบรกยก‘กลุ่มท่องเที่ยว’แกร่ง เดือนม.ค.-ก.พ.‘ผู้โดยสาร’โต 20%

โบรกยก‘กลุ่มท่องเที่ยว’แกร่ง เดือนม.ค.-ก.พ.‘ผู้โดยสาร’โต 20% บล.กสิกรไทยเผย แข็งแกร่งกว่าตลาดคาดการณ์ ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย ระบุ รัฐกำลังเร่งแก้ไข แก๊งคอลเซนเตอร์ เรียกความเชื่อมั่น ด้าน บล.ทิสโก้ เผยปีนี้ท่องเที่ยวโตแต่ไม่เท่าปีก่อนหน้า
จากความกังวลของ “นักท่องเที่ยวจีน” ต่อกรณีนักแสดงชาวจีน “หวัง ซิง” ถูกลักพาตัวผ่านไทยไปยังเมียนมา โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบนำเหยื่อไปทำงานใน “ศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนเกิดการยกเลิกมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกลับมา โดย “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” หรือ ททท. เผย แม้จะเกิดปัญหาดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวจีน “ลดลง” ไปกว่า 94% จากข้อมูลพบตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยยังคงครองอันดับหนึ่ง
“พิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนม.ค. 2568 ยังคงมีการเติบโตค่อนข้างน่าพอใจอยู่ โดยนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยอยู่ที่ 3.7 ล้านคน เทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงเดียวกันอยู่ที่ 3 ล้านคน ถือว่าโต 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนเดือนก.พ. 2568 ตัวเลขอาจจะลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากฐานเทศกาลตรุุษจีนอยู่เดือนม.ค. แต่หากดูตัวเลข 2 เดือนแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังไทยน่าจะยังเห็นการเติบโตอยู่ ซึ่งภาพรวมใหญ่ยังไม่ได้น่ากลัว
ตัวเลขของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT มีการจัดเก็บข้อมูล 6 สนามบิน ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เก็บหมดในทุก ๆ ทาง ซึ่งอาจจะไม่ได้นักท่องเที่ยวจริงๆ ทั้งหมด แต่ AOT ข้อมูลคือ นักท่องเที่ยวมีการบินเข้ามายังไทย ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว ที่ต้องมีการเข้าพักในโรงแรม มีการจับจ่ายใข้สอย จึงมองตัวเลข AOT สะท้อนถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวได้
หากดูตัวเลขของ AOT เดือนม.ค.2568 นักท่องเที่ยวบวกอยู่ 21% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ม.ค.- ก.พ. 2568 เฉลี่ย 2 เดือน โต 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อน “หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว” น่าจะมี performance ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และงบไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ประกาศออกมามาร์จินดีกว่าคาด ดังนั้น ภาพรวมกลุ่มท่องเที่ยวในปีนี้ยังคงเป็นการเติบโต และมีความแข็งแกร่ง จากภาพใหญ่ที่นักท่องเที่ยวมีการเติบโตขึ้น ซึ่งหุ้นกลุ่มโรงแรมที่น่าสนใจยังคงเป็นหุ้น CENTEL กับ SHR ส่วนสายการบิน ยังคงเป็นหุ้น AAV กับ BA
“ณัฐพล คำถาเครือ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้กลุ่มท่องเที่ยวจะมีปัญหาอยู่ แต่อยู่ระหว่างการแก้ไข หากมีการแก้ไขได้ก็จะทำให้เกิด “ความเชื่อมั่น” ด้านท่องเที่ยวกลับมา แต่หากดูตัวเลขนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยังคงเห็นการเติบโตที่ดีอยู่ นั่นบ่งบอกว่า การท่องเที่ยวของไทยยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่รัฐยังคงสนับสนุนท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยวที่จะมีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะกลับมาอีกรอบหนึ่งน่าจะช่วยภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศได้
“มีมุมมองเป็นบวกกับท่องเที่ยวในปีนี้ เพราะเป็นเครื่องกลหนักในการรักษาจีดีพี เพราะตัวอื่น ๆ ยังคงได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าในตัวของสินค้า แต่สงครามการทำให้เศรษฐกิจทั้งโลกชะลอ แน่นอนว่าการท่องเที่ยวก็อาจจะต้องชะลอตาม แต่ต่อให้มีการชะลอตัวตามก็ช้ากว่าอยู่ดี จึงมองเป็นเซกเตอร์ที่พอจะ Outperform ได้”
สำหรับ หุ้นเด่นที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากผลประกอบการดี อย่างหุ้น CENTEL MINT รวมถึงหุ้นขนาดกลาง และเล็กที่สามารถเทิร์นอะราวด์ได้ เช่น DUSIT ขณะที่ ธุรกิจสายการบินดี เพราะราคาน้ำมันต่ำลง คาดจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกไปด้วย โดยโฟกัสไปที่ธุรกิจสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร และค้าปลีก อย่าง CPALL และ CPAXT
“อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปฎิเสธไม่ได้ว่าหุ้นท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการยกเลิกของนักท่องเที่ยวจีน จากที่มีความกังวลในกรณีแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ได้รับผลกระทบจริง ๆ จากตัวเลขการเช่าเหมาลำหายไปหมด อาจจะทำให้เป้าหมายของรัฐที่จะอยู่ประมาณ 39-40 ล้านราย ก็อาจจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งยังคงต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวหรือไม่ และสงครามการค้าก็ถือเป็นอารมณ์ส่วนหนึ่งของนักท่องเที่ยวอยากจะไปเที่ยวยังต่างประเทศด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ปีนี้มองท่องเที่ยวเติบโตอยู่ แต่คาดจะไม่สามารถโตได้เหมือนปีก่อนหน้า ทำให้ส่งผลต่อเศรษฐกิจน้อยลง แต่ก็ถือว่ายังเป็นบวก และถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศราฐกิจอยู่แต่ยังขาดแรงส่งมากขึ้น โดยในช่วงนี้แนะนำหุ้นอยู่ 2 ตัว คือ หุ้น MINT กับ CENTEL