หุ้น S&P500 ร่วงลงต่ำสุดในรอบสัปดาห์ นับตั้งแต่เดือนกันยายน

ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ แต่ดัชนียังคงทำสถิติสัปดาห์ที่แย่ที่สุดในรอบหลายเดือน เนื่องจากการนโยบายภาษีทรัมป์ ทำให้บรรดานักลงทุนวิตกกังวล
ซีเอ็นบีซีรายงานการซื้อขายหุ้นวอลล์สตรีทวันศุกร์ (7 มี.ค.) ว่า ดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีโดยรวมปรับตัวขึ้น 0.55% สู่ระดับ 5,770.20 จุด ขณะที่ ดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้น 0.7% สู่ระดับ 18,196.22 จุด และ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 222.64 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 42,801.72 จุด
การซื้อขายผันผวนในวันศุกร์ โดยดัชนี Dow ร่วงลงมากกว่า 400 จุดในช่วงต่ำสุดของการซื้อขายก่อนจะพุ่งขึ้นในช่วงบ่าย ทั้งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลงมากกว่า 1% ในช่วงที่แย่ที่สุดในการซื้อขาย
แม้ว่าดัชนี S&P 500 จะฟื้นตัวในวันศุกร์ แต่ดัชนีกลับทำสถิติรอบสัปดาห์ที่ร่วงลงต่ำมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน โดยปรับตัวลดลง 3.1% ในขณะเดียวกัน ดัชนี Dow ร่วงลง 2.4% ในสัปดาห์นี้ ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 3.5% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีเข้าสู่เขตการปรับฐาน โดยดัชนีที่เน้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดตลาดลดลง 10% จากจุดสูงสุดล่าสุด
นักลงทุนมองข้ามรายงานการจ้างงานที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงในช่วงสั้นๆ
การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.1%
หุ้นผันผวนในสัปดาห์นี้มีสาเหตุหลักมาจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและ อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในอนาคต
หุ้นร่วงลงอย่างหนักในต้นสัปดาห์ หลังอัตราภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก มีผลบังคับในวันอังคารที่ 4 มีนาคม ต่อมาทรัมป์กลับลำในวันพฤหัสบดี โดยประกาศว่าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกซึ่งอยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าอเมริกาเหนือ ( USMCA) จะได้รับการยกเว้นภาษีที่ประกาศไว้จนถึงวันที่ 2 เมษายน
การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีผลทำให้แผนเดิมในการเก็บภาษีจากทั้งสองประเทศลดลงอย่างมาก ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าจีน 20% ด้วย หุ้นฟื้นขึ้นบางส่วนแต่ตลาดยังคงเทขายในสัปดาห์นี้ นักลงทุนเห็นว่า มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และการขาดความชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว
“ตลาดไม่ชอบความไม่แน่นอน” เกล็น สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของกองทุน GDS Wealth Management กล่าว “แม้ว่าเราคาดว่าตลาดจะตั้งหลักได้และฟื้นตัวจากการเทขายที่เกิดจากภาษีศุลกากร นักลงทุนควรเตรียมรับมือกับความผันผวนต่อไป จนกว่าความไม่แน่นอนเหล่านี้จะหมดไป”
สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับกับซีเอ็นบีซีในวันศุกร์ว่าเศรษฐกิจอาจเริ่ม “ชะลอตัวลง” เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า เป็นผลจากการเปลี่ยนผ่านจากนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน เบสเซนต์กล่าวว่าภาษีศุลกากรที่นำมาใช้จะเป็นเพียง “การปรับขึ้นของราคาครั้งเดียว” และไม่ใช่การกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อยืดเยื้อ