BCH คาดรายได้ฟื้นไตรมาส 1/68  หลังผู้ป่วยคูเวตเริ่มชัด ช่วงรอมฏอน

BCH คาดรายได้ฟื้นไตรมาส 1/68  หลังผู้ป่วยคูเวตเริ่มชัด ช่วงรอมฏอน

บล.ลิเบอเรเตอร์ เผย BCH การส่งผู้ป่วย GOP คูเวตเข้ามารักษายังไม่มีความชัดเจน คาดรู้ผลหลังช่วงรอมฎอน ขณะที่ 2 โรงพยาบาลมาดี แต่โรงพยาบาลสาขาปราจีนบุรี ช้ากว่าแผน คาดรายได้ปีนี้โต 2 หลัก เร่งดันยอดผู้ป่วย CLMV และ โฉมใหม่ รพ.ปทุมธานี และศูนย์แพทย์ฯ

จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน  BCH บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ผู้บริหารคาดรายได้รวมไตรมาส 1/68 ฟื้นตัวได้หลัก ๆ มาจากผู้ป่วยชาวไทย แม้ผู้ป่วยคูเวตยังเงียบจากประเด็นอนุมัติ GOP ล่าช้า ซึ่งผู้บริหารคาดจะเห็นความชัดเจนหลังช่วงรอมฏอน (ปีนี้ 1-31 มี.ค.) ส่วนรายได้ผู้ป่วยกลุ่ม ตอ.กลางคาดหดตัว q-q ช่วงรอมฎอนเช่นกัน

ส่วน การค้ำประกันรายได้รักษาโรคซับซ้อนที่ 12,000 บาท/ RW ตลอดปี 2025 ผู้บริหารเผยทางการได้เติมงบไว้อีก 2.9 พันล้านบาท ปีนี้ ซึ่งผู้บริหารเชื่อเพียงพอสำหรับการให้บริการทั้งปี จึงไม่ควรมีรายการพิเศษเชิงลบรบกวนเหมือนปีก่อน

นอกจากนี้ ผู้บริหารคาดเริ่มพลิกมีกำไรปลายปีนี้ 2 แห่ง คือ สาขาอรัญประเทศ และเวียงจันทน์ ซึ่งปี 2024 มี EBITDA +26 ล้านบาท และ +33 ล้านบาท ตามลำดับ มีเพียงสาขาปราจีนบุรี ที่ล่าช้าจากการแข่งขันสูง จำนวนผู้ประกันตนยังต่ำกว่าโรงพยาบาลคู่แข่ง และ EBITDA ก็ยังติดลบ -29 ล้านบาท ติดลบมากขึ้นจากปี 2023 ที่ -19 ล้านบาท 

โดยตั้งเป้ารายได้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า +10% โดยหวังผู้ป่วย CLMV, มัลดีฟส์ และ UAE จะพาลูกค้าต่างชาติกลับไปใกล้เคียงระดับก่อนหน้า (18-20% vs 14% ในปัจจุบัน) รวมถึง รพ. เกษมราษฎร์ ปทุมธานี ที่ปรับปรุงแล้วเสร็จเมื่อเดือน ม.ค. 2025 จะช่วยปรับยกระดับราคา และการทำงานของศูนย์การแพทย์เฉพาะทางต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งการมีฐานกำไรที่ต่ำปี 2567 มีมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวปีนี้

ทั้งนี้ เราปรับประมาณการปี 2568-2569 ลงเล็กน้อย -0.7% และ +4.3% เป็น 1,679 ล้านบาท และ 1,808 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้ปี 2568 คาดขยายตัว +8.3% y-y ต่ำกว่าเป้าผู้บริหารจากกังวลเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ดี ราคาเป้าหมายใหม่ปรับขึ้น 5.0% จากการปรับปรุงพารามิเตอร์ Rf ที่ลดลง -7 bps

“BCH เหลือปัจจัยลบเพียงประเด็นผู้ป่วย GOP คูเวต ที่คาดจะเห็นความชัดเจนช่วง 2Q-3Q25 ขณะที่การดำเนินงานหลักอื่นๆ โดยเฉพาะการบริการผู้ประกันตนกลับมารับรู้รายได้ตามปกติแล้ว แนะนำรอจังหวะสะสมตอนราคาอ่อนตัวเนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E25E 23.3x สูงสุดในกลุ่ม และสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 23.9% ทำให้ความน่าสนใจดูน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ BH 18.2x หรือ BDMS 22.2x ในมุมมองของเรา แนะนำซื้อ”