ดาวโจนส์ร่วงเกือบ 900 จุด นักลงทุนผวาเศรษฐกิจถดถอยจากภาษีทรัมป์

ดาวโจนส์ร่วงเกือบ 900 จุด นักลงทุนผวาเศรษฐกิจถดถอยจากภาษีทรัมป์

ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในรอบ 3 สัปดาห์ในวันจันทร์ นักลงทุนกังวลว่าความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ซีเอ็นบีซี รายงานหุ้นวอลล์สตรีทวันจันทร์ (10 มี.ค.68) ว่า ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 2.7% แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกันยายน ณ จุดหนึ่ง และปิดที่ 5,614.56 จุด ดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเน้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลงรุนแรงที่สุดในบรรดาดัชนีหลัก โดยดิ่งลงลึก 4% นับเป็นวันที่ย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 และปิดที่ 17,468.32 จุด ด้านดัชนี Dow Jones Industrial Average ร่วงลง 890.01 จุด หรือ 2.08% ปิดที่ 41,911.71 จุด

ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักในรอบ 3 สัปดาห์ในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งไปในระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนี S&P 500 ลดลงแล้ว 8.7% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำได้เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์  2568 และดัชนี Nasdaq Composite ลดลงเกือบ 14% จากระดับสูงสุดล่าสุด การร่วงลง 10% ถือเป็นการปรับฐานในวอลล์สตรีท

หุ้นลดลงรุนแรงในระหว่างวัน แต่ดัชนีหลักกลับมาจากจุดต่ำสุดของการซื้อขายก่อนปิดตลาด

หุ้นกลุ่มเจ็ดนางฟ้า “Magnificent Seven” ซึ่งเคยเป็นดาวเด่นของตลาดกระทิงนี้ เป็นผู้นำการลดลงในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายกลุ่มนี้เพื่อซื้อหุ้นที่ปลอดภัยกว่า ราคาหุ้นTesla ร่วงลง 15% ถือเป็นวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 2020

ในขณะที่ Alphabet และ Meta ร่วงลงมากกว่า 4% Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นที่นักลงทุนชื่นชอบร่วงลง 5% และ  Palantir ซึ่งเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่เคยเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนรายย่อย ร่วงลง 10%

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยเริ่มจากข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนที่อ่อนแอลงซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการตอบสนองต่อนโยบายภาษีศุลกากรที่เปลี่ยนกลับไปกลับมา และต่อมายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจากความคิดเห็นล่าสุดของทำเนียบขาว

รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวกับซีเอ็นบีซี เมื่อวันศุกร์ ว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ช่วง “ดีท็อกซ์” เนื่องจากรัฐบาลชุดใหม่จะลดการใช้จ่ายของรัฐบาล จากนั้นในการสัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบคำถามทางทีวีฟ็อกซ์นิวส์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจกำลังอยู่ใน “ช่วงเปลี่ยนผ่าน”

ทรัมป์ กล่าวว่า “สิ่งที่ผมต้องทำคือ สร้างประเทศให้แข็งแกร่ง คุณไม่สามารถเฝ้าดูตลาดหุ้นได้จริงๆ”

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบจากภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้น

“เราอยู่ในช่วงขาลงของการปรับตัวที่ถูกสร้างขึ้น” แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทวิจัย CFRA Research กล่าว “ผมบอกว่าเป็นการปรับตัวที่ถูกสร้างขึ้นเพราะว่าโดยพื้นฐานแล้วเป็นการตอบสนองต่อโครงการภาษีของรัฐบาลชุดใหม่ หรืออย่างน้อยก็ภัยคุกคามจากภาษี และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ”

สัญญาณของนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงนั้นชัดเจนทุกที่ในวอลล์สตรีท ดัชนีความผันผวน (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความกลัวของนักค้าหุ้น พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม บิตคอยน์ร่วงลงมาต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง

การร่วงลงของ S&P 500 นั้นจะรุนแรงกว่านี้ หากไม่มีการหมุนเวียนไปยังหุ้นปลอดภัยของตลาดที่มีรายได้มั่นคง และจ่ายเงินปันผล โดยราคาหุ้น Mondelez และ Johnson & Johnson ปิดวันปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์