ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 มี.ค.) ปิดลบ 7.95 จุด ท่ามกลางแรงขายทำกำไร

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 มี.ค.) ปิดลบ 7.95 จุด ท่ามกลางแรงขายทำกำไร

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (20 มี.ค.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,181.71 จุด ลดลง 7.95 จุด หรือ 0.67% โบรกฯ ชี้ ดัชนีฯ ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า แนะเก็บหุ้นที่ได้อานิสงส์จากการปลดล็อคมาตรการ LTV ชั่วคราว

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (20 มี.ค.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,181.71 จุด ลดลง 7.95 จุด หรือ 0.67% โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,200.09 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,181.71 จุด และมี มูลค่าซื้อขาย 44,505.29 ล้านบาท 

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 มี.ค.) ปิดลบ 7.95 จุด ท่ามกลางแรงขายทำกำไร ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (20 มี.ค.)

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. KBANK ราคาปิด 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.90% มูลค่าซื้อขาย 3,058.05 ล้านบาท
  2. PTT ราคาปิด 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 3.36% มูลค่าซื้อขาย 2,985.73 ล้านบาท
  3. GULF ราคาปิด 49.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.45% มูลค่าซื้อขาย 2,223.75 ล้านบาท
  4. INTUCH ราคาปิด 81.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.10% มูลค่าซื้อขาย 2,076.87 ล้านบาท
  5. ADVANC ราคาปิด 266.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง หรือ 0.00% มูลค่าซื้อขาย 1,893.37 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เริ่มต้นด้วยโมเมนตัมเชิงบวกตลอดช่วงเช้า ก่อนที่จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงบ่าย ส่งผลให้ดัชนีหลุดจากแดนบวกเข้าสู่แดนลบในช่วงท้ายของการซื้อขาย

ทั้งนี้ "หลังจากที่ SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,200 จุดในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีลดช่วงบวกและเข้าสู่แดนลบ" โดยเขายืนยันว่าไม่ได้มีประเด็นลบใดๆ เป็นเพียงการขายทำกำไรของนักลงทุนที่ยังคงระมัดระวังต่อการลงทุน

แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้และสัปดาห์หน้า

สำหรับแนวโน้มของตลาดในวันพรุ่งนี้และสัปดาห์หน้า นายอภิชาติมองว่ายังไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้าที่จะมีการอภิปรายในสภาฯ ทำให้นักลงทุนอาจจะยังไม่ค่อยอยากลงทุนในระยะสั้น

ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้นไทยจะเริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ เช่น การปรับประมาณการของ UBS เป็น “Overweight” แต่เป็นความสนใจในการลงทุนระยะกลางถึงยาวมากกว่า ส่วนระยะสั้นยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เข้ามากระทบ ซึ่งยังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจน

คำแนะนำในการลงทุน

นายอภิชาติแนะนำให้เก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปลดล็อคมาตรการ LTV ชั่วคราว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

"ล่าสุดก็อาจจะมีเล่นเก็งกำไรได้ในหุ้นกลุ่มที่เป็น Property เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปลดล็อคพวก LTV ชั่วคราว" นายอภิชาติกล่าว พร้อมอธิบายเสริมว่า "สามารถยังคงเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนในระยะสั้นได้ และกลุ่มนี้มันถูกแล้ว มีปัจจัยบวก เงินปันผลก็ดี"

สำหรับคำแนะนำรายตัว นายอภิชาติแนะนำหุ้น 3 ตัว คือ AP (เอพี ไทยแลนด์), SPALI (ศุภาลัย) และ SIRI (แสนสิริ) แต่เน้นแนะนำ AP และ SPALI มากกว่า เนื่องจากมีหนี้น้อยกว่าและมีเงินปันผลที่ดี

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ เขาให้แนวรับ-แนวต้านสำหรับตลาดหุ้นไทยว่าอยู่ที่ 1,175 จุด และ 1,200 จุด