S&P500 เพิ่มขึ้น หยุดการไหลลงสี่สัปดาห์ ตลาดยังผวาเศรษฐกิจถดถอย

S&P500 เพิ่มขึ้น หยุดการไหลลงสี่สัปดาห์ ตลาดยังผวาเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ ยุติการร่วงลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ที่เกิดจากความวุ่นวายในนโยบายการค้า ความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการร่วงลงของหุ้นเทค

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท วันศุกร์ (21 มี.ค.) ว่า ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.08% เข้าสู่แดนบวกเมื่อการซื้อขายใกล้จะสิ้นสุด ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมปิดที่ 5,667.56 จุด ด้าน ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.52% และปิดที่ 17,784.05 จุด

ขณะที่ ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 32.03 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 41,985.35 จุด

S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ ยุติการร่วงลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ที่เกิดจากความวุ่นวายในนโยบายการค้าของสหรัฐ ความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการร่วงลงแรงของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่

ในรอบสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5%  หลีกเลี่ยงการลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ห้า ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.2% ในสัปดาห์นี้ และดัชนี Dow เพิ่มขึ้น 1.2%

วันศุกร์เป็นวันเหตุการณ์สำคัญของตลาดการเงิน (quadruple witching day) ซึ่งเป็นวันที่สัญญาออปชันหลายแบบหมดอายุสัญญาตรงกันภายในวันเดียว โดยออปชันหุ้น ดัชนีฟิวเจอร์ส  ดัชนีออปชัน  และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาหุ้นรายตัวจะหมดอายุลง ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ประมาณการว่าออปชันมูลค่ากว่า 4.7 ล้านล้านดอลลาร์จะหมดอายุลง

การซื้อขายหุ้นในวันศุกร์มีความผันผวน โดยดัชนีหลักๆ หลุดจากจุดต่ำสุด หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าจะมี "ความยืดหยุ่น" ในเรื่องภาษีศุลกากร อย่างไรก็ตาม เขายืนกรานว่าภาษีศุลกากรที่จะนำมาใช้ในวันที่ 2 เมษายนจะเป็นแบบตอบโต้ โดยกล่าวว่าทุกประเทศที่เก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าของสหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บตอบโต้

ไมเคิล กรีน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของกองทุน Simplify Asset Management กล่าวว่ากำหนดเส้นตายด้านภาษีศุลกากรของทรัมป์กำลังใกล้เข้ามาและส่งผลกระทบต่อตลาด

“บริษัทต่างๆ กล่าวถึงความสับสนและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการวางแผน การใช้จ่ายเงินทุน และการตัดสินใจในการจ้างงานมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อบริษัทเหล่านี้หยุดชะงัก นั่นหมายถึงธุรกิจของบริษัทกำลังชะลอตัวลง” เขากล่าว 

ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสองตัวร่วงลงในวันศุกร์ โดยราคาหุ้นของบริษัท FedEx (ราคาหุ้นFedEx) ซึ่งให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ระดับโลกร่วงลง 6.5% หลังจากที่ปรับลดคาดการณ์รายได้ โดยอ้างถึง “ความอ่อนแอและความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ” หุ้นของ Nike

ร่วงลงมากกว่า 5% หลังจากที่ยักษ์ใหญ่ด้านรองเท้าและเครื่องแต่งกายรายนี้ระบุว่ายอดขายในไตรมาสนี้จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เนื่องจากผลกระทบของภาษีศุลกากรและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง

ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเข้าสู่ภาวการณ์ปรับฐานในช่วงสั้นๆ ในช่วงหนึ่งระหว่างการเทขายตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ และปัจจุบันดัชนีลดต่ำลง 8% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งต่ำกว่าระดับการปรับฐาน 10% ดัชนีอ้างอิงได้พยายามที่จะปรับตัวขึ้นในเดือนนี้แต่ก็ไม่ประสบผลมากนัก เมื่อวันพุธที่ดัชนีดีดกลับ 1% หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่ามีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้