หุ้น ‘อินเดีย’ ฟื้นตัว หลังแบงก์ชาติอัดฉีดสภาพคล่อง 2.1 หมื่นดอลล์

หุ้น ‘อินเดีย’ ฟื้นตัว 1.3% ชดเชยการขาดทุนในปีนี้
หลังแบงก์ชาติอัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าระบบ ดึงเงินทุนไหลกลับ
บลูมเบิร์กรายงานความเคลิ่นไหวตลาดหุ้น “อินเดีย” เริ่มฟื้นตัว นำโดยดัชนี NSE Nifty 50 ปรับตัวขึ้น 1.3% และสามารถชดเชยการขาดทุนทั้งหมดในปี 2568 ได้สำเร็จ หลังจาก ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคาร ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเชื่อว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
นักวิเคราะห์จาก Citigroup ระบุว่า ตลาดหุ้นอินเดีย กำลังอยู่ในช่วง "การฟื้นตัวตามวัฏจักร" ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายด้านทุนของรัฐบาล การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน และมาตรการของธนาคารกลางในการเพิ่มสภาพคล่องในระบบ
เงินทุนไหลเข้าหุ้น ‘อินเดีย’
ตลาดหุ้นอินเดียกลับมา “น่าสนใจ” อีกครั้งสำหรับนักลงทุนในประเทศ เนื่องจากหุ้นในจีนและสหรัฐปรับตัวลดลง รวมถึงการไหลออกของเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติได้ชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สะท้อจากเงินทุนไหลที่เข้าสู่ตลาดผ่านกองทุนที่อ้างอิงดัชนี FTSE Russell
กองทุนทั่วโลกเริ่มกลับมาซื้อหุ้นอินเดียเป็นรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม เนื่องจากตลาดหุ้นฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ข้อมูลจาก Bloomberg แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 515 ล้านดอลลาร์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ดัชนี NSE Nifty 50 สามารถลบล้างผลขาดทุนสะสมตั้งแต่ต้นปีได้ในวันจันทร์
แม้ว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าจะยังน้อยเมื่อเทียบกับเงินที่ไหลออกไปกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนม.ค. แต่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นอินเดียการร่วงลงอย่างต่อเนื่องหลายเดือนติดต่อกัน ทำให้มูลค่าหุ้นหายไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยดัชนี Nifty ร่วงลงไปถึง 6.6% และทำจุดต่ำสุดของปี 2568 เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้น กองทุนต่างชาติได้ถอนเงินออกจากตลาดหุ้นอินเดียไปแล้วกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์