HMPRO บอร์ดไฟเขียว ซื้อหุ้นคืน วงเงิน 7 พันล้าน เพิ่ม ROE - กำไรต่อหุ้น เริ่ม 1 เม.ย.นี้

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วงเงินสูงสุดที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท จำนวนหุ้น ที่จะซื้อคืน ไม่เกิน 800 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 6% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยวิธีในการซื้อหุ้นคืน จะซื้อด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์มีกำหนด ระยะเวลาในการที่จะซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 30 ก.ย.68 นี้ 

โดย หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน โดยให้นำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้นด้วยราคาหุ้นที่จะซื้อคืนจะไม่เกิดขึ้นกว่า 115% ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้าวันที่ทำรายการซื้อหุ้นคืน ทั้งนี้เพื่อประกอบการพิจารณา ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันทำการตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.68 ถึง วันที่ 24 มี.ค.68 เท่ากับ 8.16 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ EPS ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นในอนาคตสามารถสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท

บล.กสิกรไทย เปิดเผยวว่า HMPRO ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน เมื่อวานนี้  แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าบอร์ดบริหารของบริษัท ได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน (treasury Stock) ด้วยวงเงินสูงสุด 7 พันล้านบาท จำนวนวันที่ซื้อคืนไม่เกิน 800 ล้านหุ้น ระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน เริ่ม 1 เม.ย.2568 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2568

โดยแผนซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 800 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 6% ของจำนวนวันที่ จำหน่ายทั้งหมด โดยกำหนดงบประมาณสูงสุด 7 พันล้านบาท ส่งผลให้ราคาซื้อหุ้นคืนเฉลี่ยอยู่ที่ 8.75 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาปิดเมื่อวานที่ 7.70 บาท อยู่ 13.6% ขณะที่ ณ สิ้นปี 2567 HMPRO มีสภาพคล่องเพียงพอในการซื้อหุ้นคืน โดยมีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสด จำนวน 5.10 พันล้านบาท 

นอกจากนี้ บริษัท คาดว่าจะสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ประมาณ 9 พันล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับการซื้อหุ้นคืน ชำระหนี้ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ขณะเดียวกัน สถานะการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 0.88 เท่า ณ สิ้นปี 2567

ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นซื้อคืน มองว่าโครงการซื้อหุ้นคืนจะช่วยยกระดับ ROE และ EPS ในขณะที่หนี้สินของ HMPRO ที่จะครบกำหนดชำระภายใน 6 เดือนอยู่ที่ 6 พันล้านบาท เชื่อว่าการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินตามแผนนี้ จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท

อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 9.90 บาท ราคาเป้าหมายของเราที่ 9.90 บาทอ้างด้วยวิธี DCF โดยใช้อัตราคิดลดที่ 8.4% ซึ่งสะท้อน PER ปี 2568 ที่ 19.4 เท่า หรือ 1.6SD ต่ำกว่าค่า PER เฉลี่ยในอดีต โดย ณ ปัจจุบัน หุ้นซื้อขายด้วย PER ปี 2568 ที่ 15.1 เท่า หรือ 2.2SD ต่างกว่าค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง ทำให้เป็น HMPRO เป็นตัวเลือกที่ถูกที่สุดในบรรดาผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านของไทย

พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์