ราคาพลังงาน-ภาษีทรัมป์ กดดันเงินเฟ้อไทย หวั่นเกิด Downside

ราคาพลังงาน-ภาษีทรัมป์ กดดันเงินเฟ้อไทย หวั่นเกิด Downside

บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) ชี้ ราคาพลังงาน-ภาษีทรัมป์ กดดันเงินเฟ้อไทย หวั่นเกิด Downside ขณะที่สินค้าไทยยังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีน

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อไทย เดือน มี.ค.2568 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง โดยกระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (ดัชนีCPI) เดือน มี.ค.2568 สูงขึ้น ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารลดและพลังงาน สูงขึ้น 0.9% yoy ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเราและ Bloomberg consensus ที่ 0.8% และ 1.0% ตามลำดับเช่นกัน

ราคาพลังงานยังกดดันอัตราเงินเฟ้อ แบ่งตาม Core และ Non-core

  • ราคาอาหารสด ตัดส่วนน้ำหนักการคำนวณเงินเฟ้อ 17.2% สูงขึ้น 1.9% yoy
  • ราคาพลังงาน สัดส่วนน้ำหนัก 12.8% ลดลง -0.8% yoy (vs.+1.2% yoy ในเดือน ก.พ.2569 ที่ 4.3% ใน เดือน ม.ค.2568)
  • อัดราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ตัดส่วนน้ำหนัก 70%) สูงขึ้นขึ้น 0.9% yoy

แบ่งตามกลุ่มสินค้า

  • กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (F&B, ตัดส่วนน้ำหนัก 39%) สูงขึ้น 2.4% yoy
  • กลุ่นนอกจาก F&B (ตัดส่วนน้ำหนัก 61%) ลดลง -0.2% yoy

โดยอัตราเงินเฟ้อในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 0.5% yoy ซึ่งเราคาดว่าประเทศไทยจะมีอัตราเงินเฟ้อต่ำในไตรมาส 2568 หรือมี CPI เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง โดยเป็นผลมาจาก 

1.ฐานที่สูงเนื่องจากดัชนีเงินเฟ้อสูงในช่วงต้นไตรมาส 2/68  

2.รัฐบาลอนุมัติปรับลดอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2568 เป็น 3.99 บาท/หน่วยเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2568 หรือลดลง 4.6% จากงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2568 (4.16 บาท/หน่วย)

ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท/วันทั่วประเทศไม่น่าเป็นไปได้ หลังจากที่ กระทรวงแรงงานจะจัดการประชุมไตรภาคีช่วงตันเดือน เม.ย.2568 เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาททั่วประเทศ โดยมีผลวันที่ 1 พ.ค.2568 

ปัจจุบันมีเพียงห้าจังหวัดที่กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่วันละ 400 บาทคือภูเก็ต, สมุย, ระยอง, ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ดังนั้นตามความเห็นของเรารัฐน่าจะเพิ่มจำนวนจังหวัดที่มีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 400 บาท/วันมากกว่าจะกำหนดให้ใช้อัตราเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินฟ้อของไทยในปี 2568

ทั้งนี้ ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อในปีนี้ เหลือ 0.5% yoy เราคาดว่าประเทศไทยจะยังมีอัตราเงินเฟ้อค่ำและปรับลดประมาณการในปี 2025 เป็น 0.7% yoy เนื่องจากสินค้าไทยน่าจะยังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีนตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้

ขณะที่ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ค่าไฟฟ้ามีสัดส่วนน้ำหนักประมาณ 5% ของอัตราเงินเฟ้อไทยโดยรวมอยู่ในหมวดเคทะสถาน (24%) ดังนั้น หากยังคงมีมาตรการประชานิยมของรัฐด้วยการตรึงอัตราค่าจากอัตราที่ลดลงและสัดส่วนน้ำหนักในการคำนวณเงินเฟ้อ 

นอกจากนี้ เราเชื่อว่ามาตรการภาษีตอบโต้ล่าสุดของประธานาธิบดี ทรัมป์ ของสหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ รวมถึงจีนและไทย อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อมี downside อีก 20bp เพราะการแข่งขันจากสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีนจะยิ่งรุนแรง