"หุ้นไทย" ปิดลบช่วงเช้าที่ 1,137 จุดกังวล FED หวั่นคุมเงินเฟ้อยาว

โดยระหว่างวันดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,142.42 จุด  และทำจุดต่ำสุด 1,133.90จุด                 

5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ

1. KBANK       ปิดที่      149.50บาท              ลดลง 3.24 %
2. BBL            ปิดที่      146.00บาท               เพิ่มขึ้น 3.18%
3. SCB           ปิดที่       115.50บาท               เพิ่มขึ้น  1.76%
4. KTB            ปิดที่       21.70บาท                เพิ่มขึ้น  1.40%
5. GULF         ปิดที่       46.25บาท                 ลดลง 2.12%

         ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวขึ้น สวนทางกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเกือบ 700 จุดในวันพุธ (16 เม.ย.) หลังจากเจอ โรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เตือนว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าอาจทำให้ FED เผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมเงินเฟ้อและการกระตุ้นเศรษฐกิจ

        บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย)  ประเมินตลาดหุ้นที่เป็น ‘Value play’ เช่น ไทย มีแนวโน้ม Outperform ‘Growth และ Technology’แม้ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้จะปรับตัวลง แต่เป็นผลมาจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า

     รวมทั้งมุมมองที่ตึงตัวของประธาน Fed คาดส่งผลให้เกิดการหมุมเงินออกจากกลุ่ม Yield play ในระยะสั้นการลงทุนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้น Commodity play  ตามการฟื้นตัวของราคาสินค้าพลังงานและสินค้าเกษตร ขณะที่การลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำเริ่มทยอยสะสมหุ้นในกลุ่ม ‘China play’