หุ้นไทยภาคบ่ายพุ่ง 12 จุด  เด้งรับ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% จากระดับ 2% สู่ 1.75% มีผลทันที 

หุ้นไทยภาคบ่ายพุ่ง 12 จุด  เด้งรับ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% จากระดับ 2% สู่ 1.75% มีผลทันที 

หุ้นไทยภาคบ่ายพุ่ง 12 จุด เพิ่มขึ้น 1.04% หรืออยู่ที่ 1,183.31 จุด เด้งรับ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% จากระดับ 2% สู่ 1.75% มีผลทันที หุ้นเด่นแนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลงดังกล่าว GULF, GPSC, MTC, SAWAD, JMT, AP, LH, CPALL, BJC, MINT, ADVANC ขณะที่ระยะสั้นหลีกเลี่ยงธนาคารขนาดใหญ่ และกลุ่มประกัน

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย ณ วันที่ 30 เม.ย.2568 ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น 12.19 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.04% หรืออยู่ที่ 1,183.31 จุด มูลค่าการซื้อขายที่ 28,801.52 ล้านบาท 

บล.กรุงศรี ระบุว่า ผลประชุม กนง. วันนี้ มีมติให้ลดดอกเบี้ย -25 bps สู่ระดับ 1.75%  ตามที่ KSS เคยประเมินไว้ และคาดทิศทางดอกเบี้ยนโยบายไทย ยังเป็นขาลงในช่วงที่เหลือของปี อีกราว 1-2 ครั้ง 

หุ้นไทยภาคบ่ายพุ่ง 12 จุด  เด้งรับ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% จากระดับ 2% สู่ 1.75% มีผลทันที 

โดยเป็นบวกต่อ SET หนุน Equity Risk Premium จาก +4.95% ขยับขึ้นไปอีก 25bps ซึ่งทุก ๆ 25bps ของ ERP ที่เพิ่มจะหนุน SET ราว 45-50 จุด

นอกจากนี้ยังบวกต่อหุ้นในธีมวงจรดอกเบี้ยขาลง โรงไฟฟ้า GULF, GPSC เช่าซื้อ MTC, SAWAD, JMT อสังหา AP, LH หนี้สูง CPALL, BJC, MINT High Yield อย่างหุ้น  ADVANC และ ส่งออก หุ้น CPF, GFPT, HANA

อย่างไรก็ตาม เป็นลบระยะสั้นต่อหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ และ ประกัน

ส่วนประเด็นอื่นที่เราคาดตลาดจับตาต่อหลังประชุม คือ ทิศทางนโยบายระยะถัดไป, การทบทวนเป้าหมาย GDP ซึ่งเราจะเข้าร่วมงานบ่ายวันนี้และนำเสนอต่อไป

 

โดยในเชิงกลยุทธ์ อิงตลาดที่ฟื้นตัว 1-2 วันนี้ราว 18-25 จุด เราประเมิน SET มีโอกาสขยับขึ้นได้อีกราว 25-30 จุด คาด SET มีโอกาสขึ้นทดสอบบริเวณ 1200-1210 จุด โดยหุ้นเด่นแนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลงดังกล่าว GULF, GPSC, MTC, SAWAD, JMT, AP, LH, CPALL, BJC, MINT, ADVANC ขณะที่ระยะสั้นหลีกเลี่ยงธนาคารขนาดใหญ่ และกลุ่มประกัน

ขณะที่ บล.ฟิลลิป เปิดเผยว่า กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.00% เป็น 1.75% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายข้างต้น ส่งผลให้ต้นทุนของภาคธุรกิจและการบริโภคที่มีแนวโน้มลดลงในระยะถัดไป ในเบื้องต้นทางฝ่ายจึงมองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มการเงิน ค้าปลีก/ค้าส่ง และอสังหาฯ รวมถึงหุ้นที่มีสัดส่วนหนี้สินสูง ในทางกลับกัน มองเป็น Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มธนาคาร ตามส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหรือ NIM ที่มีแนวโน้มลดลงในระยะถัดไป

สำหรับหุ้นท็อปพิก คือ AP, BJC, CPALL, CPAXT, KTC, MTC, SAWAD, TNP, TRUE