รู้จัก "LiVEx" กระดานเทรดหุ้น "SMEs-Startups" ต่างจาก SET และ mai อย่างไร ?

หลัง “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” (SET) เปิดตัวกระดาน “LiVEx” กระดานเทรดหุ้น “SMEs - Startup” ล่าสุดไปเมื่อเดือน มี.ค. 65 ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของไทยสำหรับการเปิดระดมทุนกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและสตาร์ทอัพ

ล่าสุดในปีนี้มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในกระดาน LiVEx แล้วจำนวน 3 บริษัท ซึ่งบริษัทแรก คือ บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการออกแบบพัฒนา Digital Technology ที่เสนอขายหุ้นจำนวน 40 ล้านหุ้น โดยจะเข้าเทรดวันแรก ในวันที่ 9 ก.ย. 65  

ก่อนจะเข้าเทรด “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” ชวนไปทำความเข้าใจกันว่าตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง และมีความแตกต่างจาก “SET” และ “mai” อย่างไรบ้าง

•  ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) ทำอะไรได้บ้าง ? 

ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการระดมทุนและการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจ SMEs และ Startup ที่ต้องการเติบโต แต่ยังขาดโอกาสต่อยอดธุรกิจ ได้เข้ามาสร้างการเติบโตและก้าวไปสู่เส้นทางตลาดทุน และเมื่อธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตได้ ก็สามารถยกระดับไปจนถึงการเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai ได้เช่นเดียวกัน

•  LiVEx ต่างจาก SET และ mai อย่างไร ? 

สำหรับตลาดไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ มีความแตกต่างจาก SET และ mai หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นหลักเกณฑ์ของผู้ระดมทุนที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า และเป็นผู้ประกอบการคนละกลุ่ม รวมถึงการเสนอหุ้นที่จะยังไม่มีการเปิดเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปสำหรับกระดานไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ โดยรายละเอียดความแตกต่างของหลักเกณฑ์ของ LiVEx กับกระดาน SET และ mai ดังต่อไปนี้

•  นักลงทุนได้ประโยชน์อะไรจากไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์บ้าง ? 

นอกจากประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรายย่อยอย่าง SMEs และ Startup แล้ว ในมิติของนักลงทุนก็จะได้รับประโยชน์จากกระดานเทรดนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

- ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนมากขึ้น ช่วยในการประเมินความสําเร็จสําหรับการลงทุนในธุรกิจ Startup/SME

- มีระบบที่ช่วยให้มั่นใจในการจองซื้อหรือลงทุนในธุรกิจ Startup/SME

- มีสภาพคล่องในการซื้อขายเปลี่ยนมือผู้ถือหลักทรัพย์ได้ง่ายขึ้น

- สามารถทําการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลอดจนชําระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ผ่านระบบที่ปลอดภัยและมีความโปร่งใสมากขึ้นกว่าเดิม

•  เกณฑ์ที่เกี่ยวกับการซื้อขายบน LiVEx 

เกณฑ์ที่เกี่ยวกับการซื้อขาย กำหนดให้ซื้อขายผ่านสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ เฉพาะผู้ลงทุนที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด ในรูปแบบ Prepaid โดยต้องมีหุ้น หรือเงินเพียงพอสำหรับการซื้อขาย

โดยเปิดให้ซื้อขายแบบ Auction ด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติ (Automatic Order Matching : AOM) วันละ 1 รอบ ระหว่าง 9.30 - 11.00 น. พร้อมชำระราคาและส่งมอบแบบ Gross Settlement ภายในวันเดียวกันกับวันที่ซื้อขาย (วันที่ T) และไม่มีการกำหนด Ceiling & Floor และ Circuit Breaker

ทั้งนี้ “เกณฑ์ดังกล่าวได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยจะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2565"

•  สรุปใครลงทุนใน LiVEx ได้บ้าง ? 

ผู้ที่เข้ามาลงทุนใน ธุรกิจประเภทนี้ต้องมีฐานะการเงินที่มั่นคงและมีความรู้ในการลงทุนเป็นอย่างดี แบ่งประเภทนักลงทุนดังนี้

- นักลงทุนสถาบันตามนิยามของสํานักงาน กลต. เช่น ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน กองทุน เป็นต้น

- กิจการเงินร่วมลงทุน (Venture Capital)

- นิติบุคคลร่วมลงทุน (Private Equity)

- ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะตามนิยามของสํานักงาน ก.ล.ต. เป็นได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีไม่ต่ำ กว่า 4 ล้านบาท หรือมีสินทรัพย์รวมไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และมีประสบการณ์ในการลงทุนไม่น้อยกว่า 1 ปี

- นักลงทุนรายย่อยทั่วไปยังไม่สามารถลงทุนหรือซื้อขายผ่าน LIVE แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดอบรมสัมมนา ให้ความรู้การลงทุนและความเสี่ยงในธุรกิจ SME/Startup ก่อนประเมินความพร้อมในอนาคต

--------------------------------------------------

อ้างอิง: ตลาดหลักทรัพย์ฯ, กรุงเทพธุรกิจ, bangkokbiznews