ปากดี! ให้ครบวงจร อย่าลืมดูแล “ฟัน” ให้ความสำคัญกับ “ฟลูออไรด์”
คนไทย และเด็กไทยมีปัญหาฟันผุอย่างต่อเนื่อง เด็กอายุ 12 ปี ฟันผุถาวรประมาณ 52 % สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการคำนึงถึง "ฟลูออไรด์"
ยิ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฟันในตลาดหลากหลายสูตรเพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการคำนึงถึงฟลูออไรด์ เพราะว่าปัญหาคนไทยฟันผุก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเด็กเล็ก รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560 พบว่า เด็กไทยอายุ 3 ปี ฟันผุ 52% อายุ 5 ปี ฟันผุ 76 % และ เด็กอายุ 12 ปี ฟันผุถาวร 52 %
โดยวิธีป้องกันฟันผุ คือ การทำความสะอาดฟันโดยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี การปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร การใช้ฟลูออไรด์ การเคลือบหลุมร่องฟัน และการตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน
- ฟลูออไรด์ คืออะไร
ฟลูออไรด์ คือ แร่ธาตุชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุ ฟลูออไรด์พบได้ตามธรรมชาติ ทั้งในดิน หิน น้ำโดยเฉพาะน้ำบาดาล และในอาหาร เช่น ใบชา อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผัก
ปัจจุบัน ชนิดของฟลูออไรด์ที่นำมาใช้ในทางทันตกรรมนั้น มี 2 รูปแบบ
1) ฟลูออไรด์ชนิดรับประทาน (ใส่น้ำดื่มหรือแบบเม็ดรับประทาน)
2) ฟลูออไรด์เฉพาะที่ (ในยาสีฟัน หรือการเคลือบฟลูออไรด์)
องค์การอนามัยโลกแนะนำและสนับสนุนให้แปรงฟันด้วย (เน้น) ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ความเข้มข้น 1,000 – 1,500 ppm วันละ 2 ครั้ง นานครั้งละ 2 นาที
- วัยใดบ้างจำเป็นต้องได้รับฟลูออไรด์
การใช้ฟลูออไรด์ที่ให้ผลเฉพาะที่สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น (เด็กอายุประมาณ 6 เดือน) ในรูปแบบของยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แนะนำให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ความเข้มข้น 1000 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุ ซึ่งปริมาณของยาสีฟันที่ใช้มีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย
- ในเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ควรใช้ปริมาณแค่แตะขนแปรงพอเปียก และควรเช็ดฟองออกขณะแปรงฟัน
- ในเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี ควรใช้ปริมาณเท่ากับความกว้างของแปรง
- ในเด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไปและผู้ใหญ่ ควรใช้ปริมาณเท่ากับความยาวของแปรง
ภายหลังแปรงฟันควรบ้วนน้ำแต่น้อยเพื่อให้ฟลูออไรด์คงอยู่ในช่องปากมากที่สุด และไม่ควรดื่มน้ำตามภายหลังการแปรงฟันอย่างน้อย 30 นาที
สำหรับยาบ้วนปากฟลูออไรด์แนะนำให้ใช้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่สามารถควบคุมการกลืนและบ้วนทิ้งได้ และในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุสูง
- องค์กรอนามัยโลกแนะนำให้แปรงแห้ง
องค์การอนามัยโลกแนะนำและสนับสนุนให้แปรงฟันด้วยการใช้น้ำที่น้อยที่สุด คือการแปรงฟันโดยงดการบ้วนน้ำก่อน และหลังแปรงฟัน ใช้การถุยน้ำลายแทนการบ้วนน้ำ เพื่อให้ฟลูออไรด์คงอยู่ในช่องปากมากที่สุด และไม่ควรดื่มน้ำตามภายหลังการแปรงฟันอย่างน้อย 30 นาที
วิธีการแปรงแห้ง
ก่อนการแปรงฟัน ไม่ต้องบ้วนน้ำ ไม่ต้องเอาแปรงจุ่มน้ำก่อนบีบยาสีฟัน เพื่อที่เวลาแปรงฟันจะได้ไม่มีน้ำและฟองเต็มปาก ทำให้แปรงลำบาก ซึ่งเรานำแปรงสีฟันล้างน้ำก่อน1รอบและสะบัดน้ำทิ้งให้แห้งที่สุดก่อนจะแปรงฟันให้ลูก
หลังการแปรงฟัน ไม่ต้องบ้วนน้ำเพื่อล้างยาสีฟันออก แค่บ้วนน้ำลายและฟองยาสีฟันทิ้งก็เพียงพอแล้ว หลังจากการแปรงฟันแล้ว ควรงดน้ำงดอาหารครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ฟลูออไรด์ในยาสีฟันนั้นคงอยู่
เหตุผลที่ควรแปรงฟันแห้งคือ
-การแปรงแห้งนั้นช่วยป้องกันฟันผุได้มากกว่าการบ้วนน้ำตามหลังการแปรงฟันเพราะฟลูออไรด์ที่ค้างอยู่ในปากจะเกาะยึดกับผิวฟัน ทำหน้าที่ป้องกันฟันผุได้ยาวนานขึ้น
หลังการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ฟลูออไรด์จะมีความเข้มข้นมากในครึ่งชั่วโมงแรก ซึ่งฟลูออไรด์ที่ค้างอยู่ในช่วงครึ่งชั่วโมงนี้มีประโยชน์อย่างมากในการซ่อมแซมผิวฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุ
ถ้าหลังแปรงฟันยิ่งบ้วนน้ำหลายครั้งปริมาณความเข้มข้นของฟลูออไรด์ ในปากจะลดลงอย่างมาก ทำให้การป้องกันฟันผุจะลดน้อยลง และถ้าเพิ่งแปรงฟันเสร็จแล้วมาดื่มน้ำหรือทานอาหารทันที ฟลูออไรด์ในช่องปากจะยิ่งลดลงเพิ่มมากขึ้น
----------------------------------
อ้างอิง
ศูนย์ทันตกรรมเด็ก , si.mahidol.ac.th, colgate.com , sktdental.com