"ศิริราช"ระบุผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้น BA.4, BA.5 ทำติดเชื้อซ้ำได้
"หมอประสิทธิ์" เผยมีจำนวนผู้ป่วยโควิด รพ.ศิริราชเพิ่มขึ้น ยันไม่มีโอมิครอน BA.4, BA.5 ระบุBA.4, BA.5 ทำติดเชื้อซ้ำได้ แนะฉีดวัคซีน 4 เข็ม ในกลุ่มคนเสี่ยง คนทั่วไป และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ขณะที่คนไทยต้องกระชับตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย/ผ้า เว้นระยะห่าง และล้างมือ
วันนี้ (26 มิ.ย. 2565) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าสถานการณ์การครองเตียงผู้ป่วยโควิด-19 โรงพยาบาล (รพ.) ศิริราช เพิ่มขึ้นชัดเจน แต่สาเหตุของการเข้ารักษาตัวเป็นเพราะโรคประจำตัวที่มีอยู่อาการแย่ลง ซึ่งก่อนทำการรักษาต้องตรวจหาเชื้อก่อน ทำให้ทราบว่าติดโควิด-19 ด้วย จึงต้องแยกไปอยู่หอผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนข้อมูลผู้ป่วยที่อาการรุนแรงยังไม่เพิ่มขึ้น แต่ รพ.ศิริราช ก็เตรียมรับมือไว้
ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยของเชื้อโอมิครอนนั้น สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 พบข้อมูลมาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะประเทศทางยุโรป ที่พบอัตราติดเชื้อกลับมาสูงขึ้นเป็นหมื่นรายต่อวัน ข้อมูล ณ ขณะนี้ พบว่า สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 เริ่มไปทดแทนสายพันธุ์ย่อย BA.2 เนื่องจาก BA.4 และ BA.5 แบ่งตัวเร็วกว่า แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า รุนแรงมากกว่า เพราะยังไม่มีหลักฐานการป่วยจนเข้านอนในโรงพยาบาล (รพ.) อาการรุนแรงถึงเสียชีวิตที่ชัดเจนเพียงพอ ถือ เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม
อย่างไรก็ตาม การที่มีการแพร่ระบาดเร็วขึ้นมองได้ 2 แง่ คือ
1.ตำแหน่งการกลายพันธุ์
2.คนเริ่มผ่อนคลายมาตรการหน้ากากอนามัย
จึงมีโอกาสที่แพร่กระจายได้มากขึ้น รวมถึงกิจกรรมสังคมที่มากขึ้นด้วย ทั้งนี้หลายประเทศก็ไม่ได้ตรวจหาเชื้อกันแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
อัปเดต โควิดวันนี้ 10 จ.ติดเชื้อสูง กทม. 1,704 จับตาปากน้ำ อุบล ปทุมธานี
โควิดระลอกใหม่ ระบาดหนัก คาดตัวเลขมากกว่า 10 เท่าที่รายงาน
สธ. แจง "โอมิครอน" BA.4 / BA.5 ไม่มีข้อมูลรุนแรงขึ้น แนะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
เช็ก สิทธิด้านสุขภาพ ในแอป "เป๋าตัง" ตรวจ คัดกรอง รับบริการอะไรได้บ้าง
BA.4 และ BA.5 ติดเชื้อซ้ำได้ ย้ำฉีดวัคซีนป้องกัน
ดังนั้น ที่เห็นผลตรวจเป็นหมื่นราย แสดงว่ายอดจริงต้องมากกว่านั้นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราไม่เห็นความรุนแรงที่ชัดเจน คือ วัคซีน อย่างที่เคยย้ำว่า หากฉีดมากกว่า 3-4 เข็มขึ้นไป ก็จะช่วยลดความรุนแรงได้แม้จะมีการกลายพันธุ์ แต่ไวรัสยังเป็นโคโรนาตัวเดิม ข้อเตือนใจสำหรับไทยที่เปิดประเทศมีผู้เดินทางเข้าเป็นหมื่นคน ดังนั้น เมื่อตรวจพบเจอก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เมื่อมีการเดินทางก็มีแนวโน้มจะกระจายไปได้มากขึ้นด้วย สิ่งที่ต้องย้ำ คือ
1.วัคซีน เพราะข้อมูลการศึกษาของ BA.4 และ BA.5 มีแนวโน้มว่าอาจจะเกาะเซลล์ปอดได้มากกว่า BA.2 แต่ยังไม่ต้องไปเทียบกับเดลต้า เพราะไม่มีหลักการว่าจะรุนแรงมากกว่า คำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ได้ศึกษาข้อมูลประชากรกว่า 5 แสนคน พบว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ป้องกันติดเชื้อได้ ร้อยละ 25 แต่ถ้าฉีด 4 เข็ม ก็จะเพิ่มสูงถึงร้อยละ 70-75 สำหรับผมแนะนำให้ฉีด 4 เข็ม ในกลุ่มคนทั่วไป และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ก็เป็นเข็มที่ 5 ได้เลย ซึ่งหลายคนก็ได้รับแล้ว
2.คนไทยต้องกระชับตัวเอง เพราะบังคับนักท่องเที่ยวได้ยาก ดังนั้น ต้องป้องกันตนเองด้วยมาตรการเดิมคือ สวมหน้ากากอนามัย/ผ้า เว้นระยะห่าง และล้างมือ เพราะเรายังมีเด็กต่ำกว่า 5 ขวบ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
แนะไม่ได้บังคับให้สวมหน้ากาก แต่ไม่ได้บอกว่าต้องถอดหน้ากากออก
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า โอมิครอนทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำได้ แต่คนจำนวนหนึ่งติดจริง แต่มีอาการน้อย จึงไม่ได้ตรวจ ดังนั้น จริงๆ ที่เราเคยพูดว่าจะติดเชื้อซ้ำได้ใน 4-6 เดือน ก็อาจจะสั้นกว่านั้น เพียงแต่คนไม่ได้ตรวจ ทั้งนี้ ข้อมูลที่เห็นได้ว่า BA.4 และ BA.5 ติดเชื้อได้เร็ว เห็นว่าภูมิคุ้มกันที่มีอยู่อาจลดลงเร็วกว่าตอนที่ป้องกัน BA.2 ฉะนั้น คนกลุ่มเสี่ยง 608 ควรฉีดวัคซีนกระตุ้นเมื่อครบ 4 เดือน
ส่วนคนที่ติดเชื้อซ้ำ ต้องบอกว่าลองโควิด (Long Covid19) เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้นได้ทุกสายพันธุ์ บางคนมีอาการทำให้ชีวิตประจำวันลดลง เช่น สมองตื้อ ผมร่วง ดังนั้น หากมีสายพันธุ์ที่กระจายเร็วกว่าเดิม การติดเชื้อก็จะไม่คุ้มกับลองโควิด
“คนที่หายแล้วติดอีกซ้ำๆ ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีหรือไม่มีผลกระทบกับภาพรวมสุขภาพ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะติดเชื้อซ้ำ เพราะตอน BA.2 ที่ไม่ลงปอด เราสบายใจ แต่มา BA.4 มีสมมติว่ามีข้อมูลพิสูจน์ชัดว่าอาการรุนแรง เล่นงานปอด นั่นก็เรื่องใหญ่ หากทุกครั้งที่ติดแล้วจู่โจมปอด ก็ทำลายเนื้อปอดที่อาจไม่ฟื้นตัวกลับมาง่ายๆ” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กรณีที่มีราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยได้ตามความสมัครใจ ตามหลักการเรื่องนี้ประกาศเพื่อบอกว่าไม่ได้บังคับให้สวมหน้ากากแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าต้องถอดหน้ากากออก โดยเฉพาะตอนนี้ ที่มีเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 เชื่อว่า ประชาชนจะระวังตัวมากขึ้น เพราะยังต้องเฝ้าติดตามความรุนแรงของโรค โดยคาดว่าอีก 2 สัปดาห์ จะเห็นภาพชัดเจนของ BA.4 และ BA.5 มากขึ้น